วัดอัปสรสวรรค์

วัดอัปสรสวรรค์ ตั้งอยู่ริมคลองด่าน แขวงปากคลองภาษีเจริญ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร มีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจดังนี้. * **ชื่อเดิม:** วัดนี้มีชื่อเดิมว่า "วัดหมู". ชื่อนี้มีที่มาจากตำนานที่เล่าว่า เศรษฐีชาวจีนชื่อ "จีนอู๋" เป็นผู้สร้างวัดขึ้นบนที่ดินที่เคยใช้เลี้ยงหมู. เมื่อสร้างเสร็จ หมูได้มาเดินเพ่นพ่านเป็นจำนวนมาก ชาวบ้านจึงเรียกวัดนี้ว่า "วัดหมู". นอกจากนี้ ยังมีข้อสันนิษฐานว่าอาจมาจากอาชีพของชุมชนในสมัยนั้น ซึ่งเป็นแหล่งเลี้ยงหมูและทำสวน. * **การสถาปนาใหม่และพระราชทานนาม:** ในสมัยรัชกาลที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เจ้าจอมน้อย (สุหรานากง) พระธิดาในเจ้าพระยาพลเทพ (ฉิม) ได้สถาปนาวัดนี้ขึ้นใหม่. พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 3) ทรงบูรณะและปฏิสังขรณ์วัด และพระราชทานนามใหม่ว่า "วัดอัปสรสวรรค์" เพื่อเป็นอนุสรณ์แด่เจ้าจอมน้อย ผู้มีความสามารถในการแสดงละครจนมีคำเปรียบเปรยว่า "ท่วงท่ารำนั้นงามสง่าดุจอัปสรมาแต่สวรรค์". * **โบราณวัตถุและสถาปัตยกรรมสำคัญ:** * **พระประธาน 28 พระองค์:** ภายในพระอุโบสถประดิษฐานพระพุทธรูปหล่อปางมารวิชัยจำนวน 28 องค์ ซึ่งหมายถึงพระพุทธเจ้าทั้ง 28 พระองค์. พระพุทธรูปเหล่านี้มีขนาดเท่ากัน ประดิษฐานอยู่บนฐานชุกชีเดียวกัน และมีจารึกชื่อของแต่ละพระองค์ไว้ที่ฐาน. * **พระพุทธรูปปางฉันสมอ:** วัดได้รับพระราชทานพระพุทธรูปปางฉันสมอ หรือ "หลวงพ่อสมอ" จากรัชกาลที่ 3 มาประดิษฐานที่วัดด้วย. พระพุทธรูปปางนี้มีลักษณะแบบจีน และเชื่อว่ามีต้นกำเนิดมาจากเวียงจันทน์. * **สถาปัตยกรรม:** พระอุโบสถและพระวิหารสร้างขึ้นตามศิลปะนิยมในสมัยรัชกาลที่ 3 หรือศิลปะแบบจีน. หอไตรกลางน้ำเป็นอาคารไม้สไตล์ไทยประเพณีที่ยังคงรูปแบบดั้งเดิม. วัดอัปสรสวรรค์เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร และเปิดเป็นวัดเพื่อการท่องเที่ยว.