๒. อุปาทานิยทุกะ
[๗๐] อุปาทานิยา ธมฺมา. สภาวธรรมที่เป็นอารมณ์ของอุปาทาน (๑๒๒๕,๑๕๕๕)
อนุปาทานิยา ธมฺมา. สภาวธรรมที่ไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทาน (๑๒๒๖,๑๕๕๖)
๓. อุปาทานสัมปยุตตทุกะ
[๗๑] อุปาทานสมฺปยุตฺตา ธมฺมา. สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยอุปาทาน (๑๒๒๗,๑๕๕๗)
อุปาทานวิปฺปยุตฺตา ธมฺมา. สภาวธรรมที่วิปปยุตจากอุปาทาน (๑๒๒๘,๑๕๕๘)
๔. อุปาทานอุปาทานิยทุกะ
[๗๒] อุปาทานา เจว ธมฺมา อุปาทานิยา จ. สภาวธรรมที่เป็นอุปาทานและเป็น อารมณ์ของอุปาทาน (๑๒๒๙,๑๕๕๙)
อุปาทานิยา เจว ธมฺมา โน จ อุปาทานา. สภาวธรรมที่เป็นอารมณ์ของอุปาทาน แต่ไม่เป็นอุปาทาน (๑๒๓๐,๑๕๖๐)
๕. อุปาทานอุปาทานสัมปยุตตทุกะ
[๗๓] อุปาทานา เจว ธมฺมา อุปาทานสมฺปยุตฺตา จ. สภาวธรรมที่เป็นอุปาทานและสัมปยุต ด้วยอุปาทาน (๑๒๓๑,๑๕๖๑)
อุปาทานสมฺปยุตฺตา เจว ธมฺมา โน จ อุปาทานา. ภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยอุปาทานแต่ ไม่เป็นอุปาทาน (๑๒๓๒,๑๕๖๒)
๖. อุปาทานวิปปยุตตอุปาทานิยทุกะ
[๗๔] อุปาทานวิปฺปยุตฺตา โข ปน ธมฺมา อุปาทานิยาปิ. สภาวธรรมที่วิปปยุตจากอุปาทานแต่ เป็นอารมณ์ของอุปาทาน (๑๒๓๓, ๑๕๖๓)
(อุปาทานวิปฺปยุตฺตา โข ปน ธมฺมา) อนุปาทานิยาปิ. สภาวธรรมที่วิปปยุตจากอุปาทานและ ไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทาน (๑๒๓๔, ๑๕๖๔)
อุปาทานโคจฉกะ จบ
๑๒. กิเลสโคจฉกะ
{๑๓} ๑. กิเลสทุกะ
[๗๕] กิเลสา ธมฺมา. สภาวธรรมที่เป็นกิเลส (๑๒๓๕,๑๕๖๕)
โน กิเลสา ธมฺมา. สภาวธรรมที่ไม่เป็นกิเลส (๑๒๔๖,๑๕๖๖)