จตุตถฌานฝ่ายกุศล วิบาก และกิริยา อรูปาวจร ๔ ฝ่ายกุศล วิบาก และกิริยา โลกุตตรจตุตถฌานฝ่ายกุศลและวิบาก เว้นอทุกขมสุขเวทนาที่เกิดขึ้นในจิตนี้แล้ว สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่าสัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนา
เวทนา ๓ รูป และนิพพาน สภาวธรรมเหล่านี้กล่าวไม่ได้ว่า สัมปยุตด้วย สุขเวทนา สัมปยุตด้วยทุกขเวทนา หรือสัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนา
๓. วิปากติกะ
{๘๘๐} [๑๓๙๐] สภาวธรรมที่เป็นวิบาก เป็นไฉน
วิบากในภูมิ ๔ สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่าเป็นวิบาก
[๑๓๙๑] สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบาก เป็นไฉน
กุศลในภูมิ ๔ และอกุศล สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่าเป็นเหตุให้เกิดวิบาก
[๑๓๙๒] สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบาก เป็นไฉน
อัพยากตกิริยาในภูมิ ๓ รูป และนิพพาน สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่าไม่เป็น วิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบาก
๔. อุปาทินนติกะ
{๘๘๑} [๑๓๙๓] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาทิฏฐิยึดถือและเป็น อารมณ์ของอุปาทาน เป็นไฉน
วิบากในภูมิ ๓ และรูปอันกรรมปรุงแต่ง สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่ากรรมอัน ประกอบด้วยตัณหาทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทาน
[๑๓๙๔] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่ เป็นอารมณ์ของอุปาทาน เป็นไฉน
กุศลในภูมิ ๓ อกุศล อัพยากตกิริยาในภูมิ ๓ และรูปอันกรรมไม่ปรุงแต่ง สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่ากรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น อารมณ์ของอุปาทาน
[๑๓๙๕] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่ เป็นอารมณ์ของอุปาทาน เป็นไฉน