[๑๔๐๑] สภาวธรรมที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจาร เป็นไฉน
ทวิปัญจวิญญาณทั้งหมด ฌาน ๓ และฌาน ๔ ที่เป็นรูปาวจรฝ่ายกุศล วิบาก และกิริยา อรูป ๔ ฝ่ายกุศล วิบากแห่งกิริยา ฌาน ๓ และฌาน ๔ ฝ่ายที่เป็น โลกุตตระฝ่ายกุศล วิบาก วิจารที่เกิดขึ้นในทุติยฌาน ในปัญจกนัย รูป และนิพพาน สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่าไม่มีทั้งวิตกและวิจาร วิจารที่เกิดพร้อมกับวิตกกล่าวไม่ได้ว่า มีทั้งวิตกและวิจาร ไม่มีวิตกมีเพียงวิจาร หรือไม่มีทั้งวิตกและวิจาร
๗. ปีติติกะ
{๘๘๔} [๑๔๐๒] สภาวธรรมที่สหรคตด้วยปีติ เป็นไฉน
จิตตุปบาทที่สหรคตด้วยโสมนัสฝ่ายกามาวจรกุศล ๔ ฝ่ายอกุศล ๔ ฝ่าย วิบากแห่งกามาวจรกุศล ๕ ฝ่ายกิริยา ๕ ทุติยฌาน ๒ และฌาน ๓ ที่เป็นรูปาวจร ฝ่ายกุศล วิบาก และกิริยา ฌาน ๒ และฌาน ๓ ที่เป็นโลกุตตระฝ่ายกุศลและวิบาก เว้นปีติที่เกิดขึ้นในจิตเหล่านั้นแล้ว สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่าสหรคตด้วยปีติ
[๑๔๐๓] สภาวธรรมที่สหรคตด้วยสุข เป็นไฉน
จิตตุปบาทที่สหรคตด้วยโสมนัสฝ่ายกามาวจรกุศล ๔ ฝ่ายอกุศล ๔ ฝ่าย วิบากแห่งกามาวจรกุศล ๖ ฝ่ายกิริยา ๕ ฌาน ๓ และฌาน ๔ ที่เป็นรูปาวจร ฝ่าย กุศล วิบาก และกิริยา ฌาน ๓ และฌาน ๔ ที่เป็นโลกุตตระกุศลและวิบาก เว้นสุข ที่เกิดขึ้นในจิตเหล่านี้แล้ว สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่าสหรคตด้วยสุข
[๑๔๐๔] สภาวธรรมที่สหรคตด้วยอุเบกขา เป็นไฉน
จิตตุปบาทที่สหรคตด้วยอุเบกขา ฝ่ายกามาวจรกุศล ๔ ฝ่ายอกุศล ๖ ฝ่าย วิบากแห่งกามาวจรกุศล ๑๐ ฝ่ายวิบากแห่งอกุศล ๖ ฝ่ายกิริยา ๖ รูปาวจรจตุตถฌาน ฝ่ายกุศล วิบาก และกิริยา อรูป ๔ ฝ่ายกุศล วิบาก และกิริยา โลกุตตรจตุตถฌานฝ่ายกุศลและวิบาก เว้นอุเบกขาที่เกิดขึ้นในจิตเหล่านี้แล้ว สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่าสหรคตด้วยอุเบกขา ปีติไม่สหรคตด้วยปีติ แต่สหรคตด้วย สุข ไม่สหรคตด้วยอุเบกขา สุขไม่สหรคตด้วยสุข แต่ที่สหรคตด้วยปีติ ไม่สหรคตด้วย อุเบกขาก็มี ที่กล่าวไม่ได้ว่า สหรคตด้วยปีติก็มี จิตตุปบาทที่สหรคตด้วยโทมนัส ๒ กายวิญญาณที่สหรคตด้วยทุกข์ อุเบกขาเวทนา รูป และนิพพาน สภาวธรรมเหล่านี้ กล่าวไม่ได้ว่าสหรคตด้วยปีติ สหรคตด้วยสุข หรือสหรคตด้วยอุเบกขา