๒๑. อัชฌัตตารัมมณติกะ
{๘๙๘} [๑๔๓๖] สภาวธรรมที่มีธรรมภายในตนเป็นอารมณ์ เป็นไฉน
วิญญาณัญจายตนะ และเนวสัญญานาสัญญายตนะ สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า มีธรรมภายในตนเป็นอารมณ์
[๑๔๓๗] สภาวธรรมที่มีธรรมภายนอกตนเป็นอารมณ์ เป็นไฉน
ฌาน ๓ และฌาน ๔ ที่เป็นรูปาวจรฝ่ายกุศล วิบาก และกิริยา จตุตถฌานวิบาก อากาสานัญจายตนะ มรรค ๔ ที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ และสามัญญผล ๔ สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่ามีธรรมภายนอกตนเป็นอารมณ์ เว้นรูปแล้ว สภาวธรรมที่เป็นกุศล อกุศล และอัพยากฤตที่เป็นกามาวจร ทั้งหมด รูปาวจรจตุตถฌานฝ่ายกุศลและกิริยา สภาวธรรมเหล่านี้ที่มีธรรมภายใน ตนเป็นอารมณ์ก็มี ที่มีธรรมภายนอกตนเป็นอารมณ์ก็มี ที่มีธรรมภายในตนและ ภายนอกตนเป็นอารมณ์ก็มี อากิญจัญญายตนะกล่าวไม่ได้ว่ามีธรรมภายในเป็น อารมณ์ มีธรรมภายนอกตนเป็นอารมณ์ หรือมีธรรมภายในตนและภายนอกตนเป็น อารมณ์ รูปและนิพพานชื่อว่ารับรู้อารมณ์ไม่ได้
๒๒. สนิทัสสนติกะ
{๘๙๙} [๑๔๓๘] สภาวธรรมที่เห็นได้และกระทบได้ เป็นไฉน
รูปายตนะ สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่าเห็นได้และกระทบได้
[๑๔๓๙] สภาวธรรมที่เห็นไม่ได้แต่กระทบได้ เป็นไฉน
จักขายตนะ ฯลฯ โผฏฐัพพายตนะ สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่าเห็นไม่ได้แต่ กระทบได้
[๑๔๔๐] สภาวธรรมที่เห็นไม่ได้และกระทบไม่ได้ เป็นไฉน
กุศลในภูมิ ๔ อกุศล วิบากในภูมิ ๔ อัพยากตกิริยาในภูมิ ๓ รูปที่เห็นไม่ได้ กระทบไม่ได้ ซึ่งนับเนื่องในธัมมายตนะ และนิพพาน สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่าเห็นไม่ ได้และกระทบไม่ได้
ติกอัตถุทธาระ จบ