[๑๔๔๔] สภาวธรรมที่ไม่มีเหตุ เป็นไฉน
โมหะที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉา และโมหะที่สหรคตด้วยอุทธัจจะ ทวิปัญจวิญญาณ มโนธาตุ ๓ อเหตุกมโนวิญญาณธาตุ ๕ รูป และนิพพาน สภาวธรรม เหล่านี้ชื่อว่าไม่มีเหตุ
๓. เหตุสัมปยุตตทุกะ
{๙๐๒} [๑๔๔๕] สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยเหตุ เป็นไฉน
อกุศลที่เหลือ เว้นโมหะที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและโมหะที่สหรคตด้วยอุทธัจจะ กุศลในภูมิทั้ง ๔ วิบากในภูมิ ๔ เว้นอเหตุกจิตตุปบาทฝ่ายวิบากแห่งกามาวจร อัพยากตกิริยาในภูมิ ๓ เว้นอเหตุกจิตตุปบาทฝ่ายกามาวจรกิริยา สภาวธรรมเหล่า นี้ชื่อว่าสัมปยุตด้วยเหตุ
[๑๔๔๖] สภาวธรรมที่วิปปยุตจากเหตุ เป็นไฉน
โมหะที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและโมหะที่สหรคตด้วยอุทธัจจะ ทวิปัญจวิญญาณ มโนธาตุ ๓ อเหตุกมโนวิญญาณธาตุ ๕ รูป และนิพพาน สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า วิปปยุตจากเหตุ
๔. เหตุสเหตุกทุกะ
{๙๐๓} [๑๔๔๗] สภาวธรรมที่เป็นเหตุและมีเหตุ เป็นไฉน
เหตุ ๒ เหตุ ๓ เกิดขึ้นร่วมกันในสภาวธรรมใด สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่าเป็น เหตุและมีเหตุ
[๑๔๔๘] สภาวธรรมที่มีเหตุแต่ไม่เป็นเหตุ เป็นไฉน
กุศลในภูมิ ๔ อกุศล วิบากในภูมิ ๔ เว้นอเหตุกจิตตุปบาทฝ่ายวิบากแห่ง กามาวจร อัพยากตกิริยาในภูมิ ๓ เว้นอเหตุกจิตตุปบาทฝ่ายกามาวจรกิริยา เว้น เหตุทั้งหมดที่เกิดในจิตตุปบาทนี้แล้ว สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่ามีเหตุแต่ไม่เป็นเหตุ สภาวธรรมที่ไม่มีเหตุกล่าวไม่ได้ว่า เป็นเหตุ มีเหตุ หรือมีเหตุแต่ไม่เป็นเหตุ
๕. เหตุเหตุสัมปยุตตทุกะ
{๙๐๔} [๑๔๔๙] สภาวธรรมที่เป็นเหตุและสัมปยุตด้วยเหตุ เป็นไฉน