[๑๔๘๔] สภาวธรรมที่เป็นอารมณ์ของสังโยชน์แต่ไม่เป็นสังโยชน์ เป็นไฉน
อกุศลที่เหลือ เว้นสังโยชน์ กุศลในภูมิ ๓ วิบากในภูมิ ๓ อัพยากตกิริยาในภูมิ ๓ รูปทั้งหมด สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่าเป็นอารมณ์ของสังโยชน์แต่ไม่เป็นสังโยชน์ สภาวธรรมที่ไม่เป็นอารมณ์ของสังโยชน์กล่าวไม่ได้ว่า เป็นสังโยชน์และเป็นอารมณ์ ของสังโยชน์ หรือเป็นอารมณ์ของสังโยชน์แต่ไม่เป็นสังโยชน์
๕. สัญโญชนสัญโญชนสัมปยุตตทุกะ
{๙๒๓} [๑๔๘๕] สภาวธรรมที่เป็นสังโยชน์และสัมปยุตด้วยสังโยชน์ เป็นไฉน
สังโยชน์ ๒ สังโยชน์ ๓ เกิดร่วมกันในสภาวธรรมเหล่าใด สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่าเป็นสังโยชน์และสัมปยุตด้วยสังโยชน์
[๑๔๘๖] สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยสังโยชน์แต่ไม่เป็นสังโยชน์ เป็นไฉน
อกุศลที่เหลือ เว้นสังโยชน์ สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่าสัมปยุตด้วยสังโยชน์แต่ ไม่เป็นสังโยชน์ สภาวธรรมที่วิปปยุตจากสังโยชน์กล่าวไม่ได้ว่า เป็นสังโยชน์และ สัมปยุตด้วยสังโยชน์ หรือสัมปยุตด้วยสังโยชน์แต่ไม่เป็นสังโยชน์
๖. สัญโญชนวิปปยุตตสัญโญชนิยทุกะ
{๙๒๔} [๑๔๘๗] สภาวธรรมที่วิปปยุตจากสังโยชน์แต่เป็นอารมณ์ของสังโยชน์ เป็นไฉน
โมหะที่สหรคตด้วยอุทธัจจะ กุศลในภูมิ ๓ วิบากในภูมิ ๓ อัพยากตกิริยาใน ภูมิ ๓ และรูปทั้งหมด สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่าวิปปยุตจากสังโยชน์แต่เป็นอารมณ์ ของสังโยชน์
[๑๔๘๘] สภาวธรรมที่วิปปยุตจากสังโยชน์และไม่เป็นอารมณ์ของสังโยชน์ เป็นไฉน
มรรค ๔ ที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ สามัญญผล ๔ และนิพพาน สภาวธรรม เหล่านี้ชื่อว่าวิปปยุตจากสังโยชน์และไม่เป็นอารมณ์ของสังโยชน์ สภาวธรรมที่ สัมปยุตด้วยสังโยชน์กล่าวไม่ได้ว่าวิปปยุตจากสังโยชน์แต่เป็นอารมณ์ของสังโยชน์ หรือวิปปยุตจากสังโยชน์และไม่เป็นอารมณ์ของสังโยชน์
สัญโญชนโคจฉกะ จบ