จิตตุปบาทที่สัมปยุตด้วยทิฏฐิ ๔ และจิตตุปบาทที่สหรคตด้วยโลภะ วิปปยุต จากทิฏฐิ ๔ เว้นโลภะที่เกิดขึ้นในจิตตุปบาทนี้ จิตตุปบาทที่สหรคตด้วยโทมนัส ๒ เว้นปฏิฆะที่เกิดขึ้นในจิตตุปบาทนี้ สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่าสัมปยุตด้วยคันถะ
[๑๔๙๔] สภาวธรรมที่วิปปยุตจากคันถะ เป็นไฉน
โลภะเกิดขึ้นในจิตตุปบาทที่สหรคตด้วยโลภะ วิปปยุตจากทิฏฐิ ๔ ปฏิฆะ เกิดขึ้นในจิตตุปบาทที่สหรคตด้วยโทมนัส ๒ จิตตุปบาทที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉา จิตตุปบาทที่สหรคตด้วยอุทธัจจะ กุศลในภูมิ ๔ วิบากในภูมิ ๔ อัพยากตกิริยาใน ภูมิ ๓ รูป และนิพพาน สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่าวิปปยุตจากคันถะ
๔. คันถคันถนิยทุกะ
{๙๒๘} [๑๔๙๕] สภาวธรรมที่เป็นคันถะและเป็นอารมณ์ของคันถะ เป็นไฉน
คันถะเหล่านั้นนั่นแหละชื่อว่าเป็นคันถะและเป็นอารมณ์ของคันถะ
[๑๔๙๖] สภาวธรรมที่เป็นอารมณ์ของคันถะแต่ไม่เป็นคันถะ เป็นไฉน
อกุศลที่เหลือ เว้นคันถะ กุศลในภูมิ ๓ วิบากในภูมิ ๓ อัพยากตกิริยาใน ภูมิ ๓ รูปทั้งหมด สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่าเป็นอารมณ์ของคันถะแต่ไม่เป็นคันถะ สภาวธรรมที่ไม่เป็นอารมณ์ของคันถะกล่าวไม่ได้ว่า เป็นคันถะและเป็นอารมณ์ของคันถะ หรือเป็นอารมณ์ของคันถะแต่ไม่เป็นคันถะ
๕. คันถคันถสัมปยุตตทุกะ
{๙๒๙} [๑๔๙๗] สภาวธรรมที่เป็นคันถะและสัมปยุตด้วยคันถะ เป็นไฉน
ทิฏฐิและโลภะเกิดขึ้นร่วมกัน ในสภาวธรรมเหล่าใด สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า เป็นคันถะและสัมปยุตด้วยคันถะ
[๑๔๙๘] สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยคันถะแต่ไม่เป็นคันถะ เป็นไฉน
จิตตุปบาทที่สหรคตด้วยโลภะ ๘ จิตตุปบาทที่สหรคตด้วยโทมนัส ๒ เว้น คันถะที่เกิดขึ้นในจิตตุปบาทนี้ สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่าสัมปยุตด้วยคันถะแต่ไม่เป็นคันถะ สภาวธรรมที่วิปปยุตจากคันถะ กล่าวไม่ได้ว่า เป็นคันถะและสัมปยุตด้วยคันถะ หรือ สัมปยุตด้วยคันถะแต่ไม่เป็นคันถะ