๓. ปรามาสสัมปยุตตทุกะ
{๙๓๙} [๑๕๑๙] สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยปรามาส เป็นไฉน
จิตตุปบาทที่สัมปยุตด้วยทิฏฐิ ๔ เว้นปรามาสที่เกิดขึ้นในจิตตุปบาทนี้ สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่าสัมปยุตด้วยปรามาส
[๑๕๒๐] สภาวธรรมที่วิปปยุตจากปรามาส เป็นไฉน
จิตตุปบาทที่สหรคตด้วยโลภะ วิปปยุตจากทิฏฐิ ๔ จิตตุปบาทที่สหรคตด้วย โทมนัส ๒ จิตตุปบาทที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉา จิตตุปบาทที่สรหคตด้วยอุทธัจจะ กุศล ในภูมิ ๔ วิบากในภูมิ ๔ อัพยากตกิริยาในภูมิ ๓ รูป และนิพพาน สภาวธรรม เหล่านี้ชื่อว่าวิปปยุตจากปรามาส ปรามาสกล่าวไม่ได้ว่า สัมปยุตด้วยปรามาส หรือ วิปปยุตจากปรามาส
๔. ปรามาสปรามัฏฐทุกะ
{๙๔๐} [๑๕๒๑] สภาวธรรมที่เป็นปรามาสและเป็นอารมณ์ของปรามาส เป็นไฉน
ปรามาสนั้นนั่นแหละชื่อว่าเป็นปรามาสและเป็นอารมณ์ของปรามาส
[๑๕๒๒] สภาวธรรมที่เป็นอารมณ์ของปรามาสแต่ไม่เป็นปรามาส เป็นไฉน
อกุศลที่เหลือ เว้นปรามาส กุศลในภูมิ ๓ วิบากในภูมิ ๓ อัพยากตกิริยาใน ภูมิ ๓ และรูปทั้งหมด สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่าเป็นอารมณ์ของปรามาสแต่ไม่เป็น ปรามาส สภาวธรรมที่ไม่เป็นอารมณ์ของปรามาสกล่าวไม่ได้ว่า เป็นปรามาสและ เป็นอารมณ์ของปรามาส หรือเป็นอารมณ์ของปรามาสแต่ไม่เป็นปรามาส ๕. ปรามาสวิปปยุตตปรามัฏฐทุกะ
{๙๔๑} [๑๕๒๓] สภาวธรรมที่วิปปยุตจากปรามาสแต่เป็นอารมณ์ของปรามาส เป็นไฉน
จิตตุปบาทที่สหรคตด้วยโลภะ วิปปยุตจากทิฏฐิ ๔ จิตตุปบาทที่สหรคตด้วย โทมนัส ๒ จิตตุปบาทที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉา จิตตุปบาทที่สหรคตด้วยอุทธัจจะ กุศล ในภูมิ ๓ วิบากในภูมิ ๓ อัพยากตกิริยาในภูมิ ๓ และรูปทั้งหมด สภาวธรรมเหล่านี้ ชื่อว่าวิปปยุตจากปรามาสแต่เป็นอารมณ์ของปรามาส