[๑๕๓๐] สภาวธรรมที่ไม่เป็นเจตสิก เป็นไฉน
จิต รูป และนิพพาน สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่าไม่เป็นเจตสิก
๔. จิตตสัมปยุตตทุกะ
{๙๔๕} [๑๕๓๑] สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยจิต เป็นไฉน
เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ และสังขารขันธ์ สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่าสัมปยุต ด้วยจิต
[๑๕๓๒] สภาวธรรมที่วิปปยุตจากจิต เป็นไฉน
รูป และนิพพาน สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่าวิปปยุตจากจิต จิตกล่าวไม่ได้ว่า สัมปยุตด้วยจิต หรือวิปปยุตจากจิต
๕. จิตตสังสัฏฐทุกะ
{๙๔๖} [๑๕๓๓] สภาวธรรมที่ระคนกับจิต เป็นไฉน
เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ และสังขารขันธ์ สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่าระคนกับจิต
[๑๕๓๔] สภาวธรรมที่ไม่ระคนกับจิต เป็นไฉน
รูป และนิพพาน สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่าไม่ระคนกับจิต จิตกล่าวไม่ได้ว่า ระคนกับจิต หรือไม่ระคนกับจิต
๖. จิตตสมุฏฐานทุกะ
{๙๔๗} [๑๕๓๕] สภาวธรรมที่มีจิตเป็นสมุฏฐาน เป็นไฉน
เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ กายวิญญัติ และวจีวิญญัติ หรือรูป แม้อื่นที่เกิดแต่จิต มีจิตเป็นเหตุ มีจิตเป็นสมุฏฐาน ได้แก่ รูปายตนะ สัททายตนะ คันธายตนะ รสายตนะ โผฏฐัพพายตนะ อากาสธาตุ อาโปธาตุ ลหุตารูป มุทุตารูป กัมมัญญตารูป อุปจยรูป สันตติรูป และกวฬิงการาหาร สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่ามี จิตเป็นสมุฏฐาน
[๑๕๓๖] สภาวธรรมที่ไม่มีจิตเป็นสมุฏฐาน เป็นไฉน
จิต รูปที่เหลือ และนิพพาน สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่าไม่มีจิตเป็นสมุฏฐาน