๑๐. อุเปกขาสหคตทุกะ
    {๙๗๙} [๑๕๙๙] สภาวธรรมที่สหรคตด้วยอุเบกขา เป็นไฉน
    จิตตุปบาทที่สหรคตด้วยอุเบกขาฝ่ายกามาวจรกุศล ๔ ฝ่ายอกุศล ๖ ฝ่าย วิบากแห่งกามาวจรกุศล ๑๐ ฝ่ายวิบากแห่งอกุศล ๖ ฝ่ายกิริยา ๖ รูปาวจรจตุตถฌาน ฝ่ายกุศล วิบาก และกิริยา อรูป ๔ ฝ่ายกุศล วิบาก และกิริยา โลกุตตรจตุตถฌานฝ่ายกุศลและวิบาก เว้นอุเบกขาที่เกิดขึ้นในจิตตุปบาทนี้ สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่าสหรคตด้วยอุเบกขา
    [๑๖๐๐] สภาวธรรมที่ไม่สหรคตด้วยอุเบกขา เป็นไฉน
    จิตตุปบาทที่สหรคตด้วยโสมนัสฝ่ายกามาวจรกุศล ๔ ฝ่ายอกุศล ๖ ฝ่ายวิบาก แห่งกามาวจรกุศล ๖ ฝ่ายวิบากแห่งอกุศล ๑ ฝ่ายกิริยา ๕ ฌาน ๓ และฌาน ๔ ที่เป็นรูปาวจรฝ่ายกุศล วิบาก และกิริยา ฌาน ๓ และฌาน ๔ ที่เป็นโลกุตตระ ฝ่ายกุศลและวิบาก อุเบกขา รูป และนิพพาน สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่าไม่สหรคต ด้วยอุเบกขา
๑๑. กามาวจรทุกะ
    {๙๘๐} [๑๖๐๑] สภาวธรรมที่เป็นกามาวจร เป็นไฉน
    กามาวจรกุศล อกุศล วิบากแห่งกามาวจรทั้งหมด อัพยากตกิริยาที่เป็น กามาวจรและรูปทั้งหมด สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่าเป็นกามาวจร
    [๑๖๐๒] สภาวธรรมที่ไม่เป็นกามาวจร เป็นไฉน
    สภาวธรรมที่เป็นรูปาวจร อรูปาวจร และที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ สภาวธรรม เหล่านี้ชื่อว่าไม่เป็นกามาวจร
๑๒. รูปาวจรทุกะ
    {๙๘๑} [๑๖๐๓] สภาวธรรมที่เป็นรูปาวจร เป็นไฉน
    ฌาน ๔ และฌาน ๕ ที่เป็นรูปาวจรฝ่ายกุศล วิบาก และกิริยา สภาวธรรม เหล่านี้ชื่อว่าเป็นรูปาวจร
    [๑๖๐๔] สภาวธรรมที่ไม่เป็นรูปาวจร เป็นไฉน
    สภาวธรรมที่เป็นกามาวจร อรูปาวจร และที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่าไม่เป็นรูปาวจร