ที่กิเลสทำให้เศร้าหมองแต่ไม่เป็นกิเลสก็มี ที่กล่าวไม่ได้ว่า กิเลสทำให้เศร้าหมองแต่ ไม่เป็นกิเลสก็มี สังขารขันธ์ที่เป็นกิเลสและกิเลสทำให้เศร้าหมองก็มี ที่กิเลสทำให้ เศร้าหมองแต่ไม่เป็นกิเลสก็มี ที่กล่าวไม่ได้ว่า เป็นกิเลสและกิเลสทำให้เศร้าหมอง หรือกิเลสทำให้เศร้าหมองแต่ไม่เป็นกิเลสก็มี
รูปขันธ์กล่าวไม่ได้ว่า เป็นกิเลสและสัมปยุตด้วยกิเลส หรือสัมปยุตด้วยกิเลส แต่ไม่เป็นกิเลส ขันธ์ ๓ กล่าวไม่ได้ว่า เป็นกิเลสและสัมปยุตด้วยกิเลส ที่สัมปยุต ด้วยกิเลสแต่ไม่เป็นกิเลสก็มี ที่กล่าวไม่ได้ว่า สัมปยุตด้วยกิเลสแต่ไม่เป็นกิเลสก็มี สังขารขันธ์ที่เป็นกิเลสและสัมปยุตด้วยกิเลสก็มี ที่สัมปยุตด้วยกิเลสแต่ไม่เป็นกิเลส ก็มี ที่กล่าวไม่ได้ว่า เป็นกิเลสและสัมปยุตด้วยกิเลส หรือสัมปยุตด้วยกิเลสแต่ไม่ เป็นกิเลสก็มี
รูปขันธ์วิปปยุตจากกิเลสแต่เป็นอารมณ์ของกิเลส ขันธ์ ๔ ที่วิปปยุตจากกิเลส แต่เป็นอารมณ์ของกิเลสก็มี ที่วิปปยุตจากกิเลสและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสก็มี ที่ กล่าวไม่ได้ว่า วิปปยุตจากกิเลสแต่เป็นอารมณ์ของกิเลส หรือวิปปยุตจากกิเลสและ ไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสก็มี
๑๓. มหันตรทุกวิสัชนา
{๙๖} รูปขันธ์ไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรค ขันธ์ ๔ ที่ต้องประหาณด้วย โสดาปัตติมรรคก็มี ที่ไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคก็มี
รูปขันธ์ไม่ต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน ๓ ขันธ์ ๔ ที่ต้องประหาณด้วย มรรคเบื้องบน ๓ ก็มี ที่ไม่ต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน ๓ ก็มี
รูปขันธ์ไม่มีเหตุต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรค ขันธ์ ๔ ที่มีเหตุต้อง ประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคก็มี ที่ไม่มีเหตุต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคก็มี
รูปขันธ์ไม่มีเหตุต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน ๓ ขันธ์ ๔ ที่มีเหตุต้อง ประหาณด้วยมรรคเบื้องบน ๓ ก็มี ที่ไม่มีเหตุต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน ๓ ก็มี
รูปขันธ์ไม่มีวิตก ขันธ์ ๔ ที่มีวิตกก็มี ที่ไม่มีวิตกก็มี
รูปขันธ์ไม่มีวิจาร ขันธ์ ๔ ที่มีวิจารก็มี ที่ไม่มีวิจารก็มี