พระไตรปิฏก ฉบับมจร. เล่มที่ 36 หน้าที่ 131
{๕๐๕} [๕๐๘] สภาวธรรมเหล่าใดวิปปยุตจากสภาวธรรมที่เป็นอารมณ์ของกิเลส สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมอง สภาวธรรมที่วิปปยุตจากกิเลส สภาวธรรมที่เป็นอารมณ์ของกิเลสแต่ไม่เป็นกิเลส สภาวธรรมที่วิปปยุต จากกิเลสแต่เป็นอารมณ์ของกิเลส
สภาวธรรมเหล่านั้นสงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๔ อายตนะ ๒ และธาตุ ๒
สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร
สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ ๑ อายตนะ ๑๐ และธาตุ ๑๖
{๕๐๖} [๕๐๙] สภาวธรรมเหล่าใดวิปปยุตจากสภาวธรรมที่ไม่เป็นอารมณ์ของกิเลส สภาวธรรมที่วิปปยุตจากกิเลสและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลส
สภาวธรรมเหล่านั้นสงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๔ อายตนะ ๒ และธาตุ ๘
สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร
สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ ๑ อายตนะ ๑๐ และธาตุ ๑๐
{๕๐๗} [๕๑๐] สภาวธรรมเหล่าใดวิปปยุตจากสภาวธรรมที่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรค สภาวธรรมที่ต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน ๓ สภาวธรรม ที่มีเหตุต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรค สภาวธรรมที่มีเหตุต้องประหาณ ด้วยมรรคเบื้องบน ๓
สภาวธรรมเหล่านั้น เว้นธาตุที่ไม่ถูกปัจจัยปรุงแต่งออกจากขันธ์แล้ว สงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๕ อายตนะ ๑๒ และธาตุ ๑๘
สงเคราะห์เข้าไม่ได้กับขันธ์ อายตนะ และธาตุเท่าไร
ไม่มีขันธ์ อายตนะ และธาตุเหล่าไหนที่จะสงเคราะห์เข้าไม่ได้
{๕๐๘} [๕๑๑] สภาวธรรมเหล่าใดวิปปยุตจากสภาวธรรมที่ไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรค สภาวธรรมที่ไม่ต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน ๓ สภาวธรรมที่มีเหตุไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรค สภาวธรรมที่มี เหตุไม่ต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน ๓
สภาวธรรมเหล่านั้นสงเคราะห์เข้าได้กับขันธ์ ๔ อายตนะ ๒ และธาตุ ๒