หน้าหลัก ฐานข้อมูลวัด E-Book บาลีไวยากรณ์ พระไตรปิฏก ติดต่อเรา
พุทธบริษัท
พระไตรปิฏกฉบับมหาจุฬาราชวิทยาลัย เล่มที่ 37 หน้าที่ 2 | Buddhaparisa.org

หน้าหลัก / พระไตรปิฏก / พระอภิธรรมปิฏก

พระไตรปิฏก ฉบับมจร. เล่มที่ 37 หน้าที่ 2

สก. สภาวธรรมใดเป็นสัจฉิกัฏฐะเป็นปรมัตถะ ท่านหยั่งรู้บุคคลนั้นได้โดย สัจฉิกัฏฐปรมัตถ์นั้นใช่ไหม

ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น

สก. ท่านจงรับนิคคหะ ดังต่อไปนี้

หากท่านหยั่งรู้บุคคลได้โดยสัจฉิกัฏฐปรมัตถ์ ดังนั้น ท่านจึงควรยอมรับว่า “สภาวธรรมใดเป็นสัจฉิกัฏฐะ เป็นปรมัตถะ ข้าพเจ้าหยั่งรู้บุคคลนั้นได้โดยสัจฉิกัฏฐปรมัตถ์นั้น” ท่านกล่าวคำขัดแย้งใดในตอนต้นนั้นว่า “ข้าพเจ้ายอมรับว่า ข้าพเจ้า หยั่งรู้บุคคลได้โดยสัจฉิกัฏฐปรมัตถ์ แต่ไม่ยอมรับว่า สภาวธรรมใดเป็นสัจฉิกัฏฐะ เป็นปรมัตถะ ข้าพเจ้าหยั่งรู้บุคคลนั้นได้โดยสัจฉิกัฏฐปรมัตถ์นั้น” คำนั้นของท่านผิด

อนึ่ง หากท่านไม่ยอมรับว่า “สภาวธรรมใดเป็นสัจฉิกัฏฐะเป็นปรมัตถะ ข้าพเจ้า หยั่งรู้บุคคลนั้นได้โดยสัจฉิกัฏฐปรมัตถ์นั้น” ท่านก็ไม่ควรยอมรับว่า “ข้าพเจ้าหยั่งรู้ บุคคลได้โดยสัจฉิกัฏฐปรมัตถ์” ท่านกล่าวคำขัดแย้งใดในตอนต้นนั้นว่า “ข้าพเจ้า ยอมรับว่า ข้าพเจ้าหยั่งรู้บุคคลได้โดยสัจฉิกัฏฐปรมัตถ์ แต่ไม่ยอมรับว่า สภาว ธรรมใดเป็นสัจฉิกัฏฐะ เป็นปรมัตถะ ข้าพเจ้าหยั่งรู้บุคคลนั้นได้โดยสัจฉิกัฏฐปรมัตถ์ นั้น” คำนั้นของท่านผิด

อนุโลมปัญจกะ จบ


๑ ในคำถามนี้ สกวาทีจงใจแยกคำว่า สัจฉิกัฏฐปรมัตถ์ออกจากกันเป็น ๒ คำ ๒ ความหมาย (ดูเชิงอรรถ ที่ ๔ หน้า ๑) เพื่อไม่เปิดช่องให้ฝ่ายปรวาทีย้อนถามได้ (อภิ.ปญฺจ.อ. ๑/๑๓๐)
๒ เพราะฝ่ายปรวาทีเห็นคล้อยตามฝ่ายสกวาทีว่า สัจฉิกัฏฐะ ปรมัตถะ มีความหมายแยกกันจริง (อภิ.ปญฺจ.อ. ๑/๑๓๓)
๓ นิคคหะ แปลว่า การข่ม การกดขี่ การปราบ(ด้วยวาทะ) ความผิดอันเกิดจากคำพูดที่ขัดแย้งกันเอง ในที่นี้หมายถึงความผิดอันเกิดจากคำพูดที่ขัดแย้งกันเอง (อภิ.ปญฺจ.อ. ๑/๑๓๓)

สารบัญ พระไตรปิฏก

พระไตรปิฏก
บาลีไวยากรณ์
พระวินัยปิฏก
E-Book บาลี
พระสุตตันตปิฏก
ข้อสอบบาลี
พระอภิธรรมปิฏก
ข้อสอบบาลี