[๑๙๖] สก. บุคคลผู้ฟังเสียงด้วยทิพยโสตธาตุได้ ฯลฯ รู้จิตของบุคคลอื่นได้ ฯลฯ หวนระลึกถึงชาติปางก่อนได้ ฯลฯ เห็นรูปด้วยทิพยจักษุได้ ฯลฯ ทำให้ แจ้งความสิ้นไปแห่งอาสวะได้ จึงจัดเป็นบุคคล บุคคลผู้ทำให้แจ้งความสิ้นไปแห่ง อาสวะไม่ได้ไม่จัดเป็นบุคคลใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
อภิญญานุโยคะ จบ
๑๕.-๑๘. ญาตกานุโยคาทิ ๑
ว่าด้วยการซักถามถึงญาติ เป็นต้น
[๑๙๗] ปร. ท่านไม่ยอมรับว่า “ท่านหยั่งรู้บุคคลได้โดยสัจฉิกัฏฐปรมัตถ์” ใช่ไหม
สก. ใช่
ปร. มารดามีอยู่มิใช่หรือ
สก. ใช่
ปร. หากมารดามีอยู่ ดังนั้น ท่านจึงควรยอมรับว่า “ข้าพเจ้าหยั่งรู้บุคคล ได้โดยสัจฉิกัฏฐปรมัตถ์”
[๑๙๘] ปร. ท่านไม่ยอมรับว่า “ข้าพเจ้าหยั่งรู้บุคคลได้โดยสัจฉิกัฏฐปรมัตถ์” ใช่ไหม
สก. ใช่
ปร. บิดามีอยู่ ฯลฯ พี่ชายน้องชายมีอยู่ ฯลฯ พี่สาวน้องสาวมีอยู่ ฯลฯ กษัตริย์มีอยู่ ฯลฯ พราหมณ์มีอยู่ ฯลฯ แพศย์มีอยู่ ฯลฯ ศูทรมีอยู่ ฯลฯ คฤหัสถ์มีอยู่ ฯลฯ บรรพชิตมีอยู่ ฯลฯ เทวดามีอยู่ ฯลฯ มนุษย์มีอยู่มิใช่หรือ
สก. ใช่