หน้าหลัก ฐานข้อมูลวัด E-Book บาลีไวยากรณ์ พระไตรปิฏก ติดต่อเรา
พุทธบริษัท
พระไตรปิฏกฉบับมหาจุฬาราชวิทยาลัย เล่มที่ 38 หน้าที่ 10 | Buddhaparisa.org

หน้าหลัก / พระไตรปิฏก / พระอภิธรรมปิฏก

พระไตรปิฏก ฉบับมจร. เล่มที่ 38 หน้าที่ 10

๑. มูลวารนิทเทส


๑. กุสลบท นยจตุกกะ


{๖} [๕๐] อนุโลมปุจฉา สภาวธรรมเหล่าใดเหล่าหนึ่งที่เป็นกุศล สภาวธรรม เหล่านั้นทั้งหมดเป็นกุศลมูลใช่ไหม

วิสัชนา กุศลมูลมี ๓ เท่านั้น สภาวธรรมที่เหลือเป็นกุศล แต่ไม่เป็นกุศลมูล

ปฏิโลมปุจฉา สภาวธรรมเหล่าใดเป็นกุศลมูล สภาวธรรมเหล่านั้นทั้งหมด เป็นกุศลใช่ไหม

วิสัชนา ใช่ (๑)

[๕๑] อนุ. สภาวธรรมเหล่าใดเหล่าหนึ่งที่เป็นกุศล สภาวธรรมเหล่านั้น ทั้งหมดมีมูลอย่างเดียวกันกับกุศลมูลใช่ไหม

วิ. ใช่

ปฏิ. สภาวธรรมเหล่าใดมีมูลอย่างเดียวกันกับกุศลมูล สภาวธรรมเหล่านั้น ทั้งหมดเป็นกุศลใช่ไหม

วิ. รูปที่มีกุศลเป็นสมุฏฐาน มีมูลอย่างเดียวกันกับกุศลมูล แต่ไม่เป็นกุศล กุศลมีมูลอย่างเดียวกันกับกุศลมูลก็ใช่ เป็นกุศลก็ใช่ (๒)

[๕๒] อนุ. สภาวธรรมเหล่าใดเหล่าหนึ่งมีมูลอย่างเดียวกันกับกุศลมูล สภาวธรรมเหล่านั้นทั้งหมดมีมูลอาศัยกันและกันกับกุศลมูลใช่ไหม

วิ. มูลเหล่าใดเป็นกุศลมูลเกิดร่วมกัน มูลเหล่านั้นเป็นมูลอย่างเดียวกันก็ใช่ เป็นมูลอาศัยกันและกันก็ใช่ สภาวธรรมที่เกิดร่วมกันกับกุศลมูลที่เหลือมีมูลอย่าง เดียวกันกับกุศลมูล แต่ไม่เป็นมูลอาศัยกันและกัน

๑ คือสภาวะที่เป็นกุศลซึ่งไม่มีโทษ มีสุขเป็นผล (อภิ.ปญฺจ.อ. ๕๐/๓๓๐)
๒ กุศลมูลมี ๓ คือ อโลภะ อโทสะ และอโมหะ แม้อัพยากตมูลก็เช่นกัน
๓ อีกประการหนึ่ง แปลว่า สภาวธรรมที่เป็นกุศลมีผัสสะเป็นต้นที่เหลือ ชื่อว่าเป็นสภาวธรรม ไม่จัดเป็น กุศลมูล (อภิ.ปญฺจ.อ. ๕๐/๓๓๐)
๔ คือมีกุศลจิตเป็นสมุฏฐาน (อภิ.ปญฺจ.อ. ๕๐/๓๓๑)

สารบัญ พระไตรปิฏก

พระไตรปิฏก
บาลีไวยากรณ์
พระวินัยปิฏก
E-Book บาลี
พระสุตตันตปิฏก
ข้อสอบบาลี
พระอภิธรรมปิฏก
ข้อสอบบาลี