สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตทำสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น เพราะปุเรชาตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่เป็นอัพยากตวิบากและที่เป็น อัพยากตกิริยาให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ ทำขันธ์ ๒ ให้เป็นปัจจัยเกิด ขึ้น ขันธ์ทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะปุเรชาตปัจจัย จักขุวิญญาณ ทำจักขายตนะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ กายวิญญาณทำกายายตนะให้เป็นปัจจัย เกิดขึ้น ขันธ์ที่เป็นอัพยากตวิบากและที่เป็นอัพยากตกิริยาทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัย เกิดขึ้น ขันธ์ทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะปุเรชาตปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่เป็นกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ ปุเรชาตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นกุศลทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ทำ หทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะปุเรชาตปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ ปุเรชาตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นอกุศลทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ทำ หทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะปุเรชาตปัจจัย (๓)
สภาวธรรมที่เป็นกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอัพยากฤตให้เป็นปัจจัย เกิดขึ้นเพราะปุเรชาตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่เป็นกุศลและหทัยวัตถุ ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ ทำขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะปุเรชาตปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤตให้เป็น ปัจจัยเกิดขึ้นเพราะปุเรชาตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่เป็นอกุศลและ หทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ ทำขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัย เกิดขึ้น ขันธ์ทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะปุเรชาตปัจจัย (๑)
อาเสวนปัจจัย
{๒๖๓} [๒๖๐] สภาวธรรมที่เป็นกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นกุศลให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ อาเสวนปัจจัย ได้แก่ ... ทำขันธ์ ๑ ที่เป็นกุศล ฯลฯ (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นอกุศลให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ อาเสวนปัจจัย ได้แก่ ... ทำขันธ์ ๑ ที่เป็นอกุศล ฯลฯ (๒)