พระไตรปิฏก ฉบับมจร. เล่มที่ 5 หน้าที่ 354
{๒๔๖} [๔๖๔] ครั้นเวลาเช้า พระผู้มีพระภาคทรงครองอันตรวาสก ทรงถือบาตร และจีวรเสด็จเข้าไปบิณฑบาตในกรุงโกสัมพี เสด็จกลับจากบิณฑบาต ภายหลัง เสวยเสร็จแล้ว ทรงเก็บเสนาสนะถือบาตรและจีวรประทับยืนท่ามกลางสงฆ์ตรัส พระคาถาเหล่านี้ว่า
{๒๔๗} ภิกษุมีเสียงดังเป็นเสียงเดียวกัน ที่จะรู้สึกว่าตนเป็นพาลนั้น ไม่มีเลยสักรูปเดียว ยิ่งเมื่อสงฆ์แตกกันก็ไม่ได้คำนึงถึงเรื่องอื่น พวกเธอขาดสติ แสดงตนว่าเป็นบัณฑิต เจ้าคารม พูดได้ ตามที่ปรารถนา จะยื่นปากพูดก็ไม่รู้สึกถึงการทะเลาะ
คนเหล่าใดผูกใจเจ็บว่า “มันได้ด่าเรา มันได้ทำร้ายเรา มันได้ชนะเรา มันได้ลักของของเรา” เวรของคนเหล่านั้น ย่อมระงับไม่ได้เลย
ส่วนคนเหล่าใดไม่ผูกใจเจ็บว่า “มันได้ด่าเรา มันได้ทำร้ายเรา มันได้ชนะเรา มันได้ลักของของเรา” เวรของเขาเหล่านั้น ย่อมระงับได้ ไม่ว่ายุคไหน ๆ ในโลกนี้ เวรย่อมไม่ระงับด้วยการจองเวร แต่ระงับด้วยการไม่จองเวร นี้เป็นของเก่า ๑
คนเหล่าอื่นไม่รู้ชัดว่า “พวกเรากำลังย่อยยับอยู่ ณ ทีนี้ ส่วนคนเหล่าใด ในหมู่นั้นรู้ชัด