เรื่องไม่ใช่หญิง ๑ เรื่อง
สมัยนั้น ชายคนหนึ่งสั่งภิกษุรูปหนึ่งว่า “พระคุณเจ้า ท่านช่วยไปบอกหญิง ชื่อนี้” ภิกษุนั้นไปถามพวกชาวบ้านว่า “หญิงคนชื่อนี้ อยู่ไหน” พวกเขาตอบว่า “ไม่ ใช่ผู้หญิง เจ้าข้า” ท่านเกิดความกังวลใจว่า เราต้องอาบัติสังฆาทิเสสหรือหนอ จึง นำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ พระองค์ตรัสว่า “ภิกษุ เธอไม่ ต้องอาบัติสังฆาทิเสส แต่ต้องอาบัติทุกกฏ” (เรื่องที่ ๔)
เรื่องหญิงบัณเฑาะก์ ๑ เรื่อง
สมัยนั้น ชายคนหนึ่งสั่งภิกษุรูปหนึ่งว่า “พระคุณเจ้า ท่านช่วยไปบอกหญิง ชื่อนี้” ภิกษุนั้นไปถามพวกชาวบ้านว่า “หญิงคนชื่อนี้ อยู่ไหน” พวกเขาตอบว่า “เป็นหญิงบัณเฑาะก์ เจ้าข้า” ท่านเกิดความกังวลใจว่า เราต้องอาบัติสังฆาทิเสส หรือหนอ จึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ พระองค์ตรัสว่า “ภิกษุ เธอไม่ต้องอาบัติสังฆาทิเสส แต่ต้องอาบัติทุกกฏ” (เรื่องที่ ๕ )
เรื่องชักจูงสามีภรรยาผู้ทะเลาะให้คืนดีกัน ๑ เรื่อง
{๔๙๒} สมัยนั้น หญิงคนหนึ่งทะเลาะกับสามีเดินไปบ้านมารดา ภิกษุที่ใกล้ชิดตระกูล พูดชักจูงให้กลับคืนดีกัน แล้วท่านเกิดความกังวลใจว่า เราต้องอาบัติสังฆาทิเสสหรือ หนอ จึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ พระองค์ตรัสถามว่า “ภิกษุ เขาหย่ากันหรือ” “ยังไม่หย่ากัน พระพุทธเจ้าข้า” “ภิกษุ เธอไม่ต้องอาบัติ เพราะเขายังไม่หย่ากัน” (เรื่องที่ ๖)
เรื่องการชักสื่อบัณเฑาะก์ ๑ เรื่อง
{๔๙๓} สมัยนั้น ภิกษุรูปหนึ่งทำหน้าที่ชักสื่อให้พวกบัณเฑาะก์ ท่านเกิดความกังวล ใจว่า เราต้องอาบัติสังฆาทิเสสหรือหนอ จึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ ทรงทราบ พระองค์ตรัสว่า “ภิกษุ เธอไม่ต้องอาบัติสังฆาทิเสส แต่ต้องอาบัติ ถุลลัจจัย” (เรื่องที่ ๗)
สัญจริตตสิกขาบทที่ ๕ จบ