สุภมาณพโตเทยยบุตรบ้าง’ เมื่อข้าพเจ้ากล่าวอย่างนี้ ท่านพระอานนท์ตอบว่า ‘วันนี้ ไม่เหมาะ ... เมื่อมีเวลาอาตมาจะเข้าไปเยี่ยม’ ข้าพเจ้าได้ดำเนินการให้ท่านพระ อานนท์สละเวลามาฉันในวันพรุ่งนี้ด้วยเหตุดังว่ามานี้”
[๔๔๘] ครั้นล่วงราตรีนั้น ยามเช้า ท่านพระอานนท์ครองอันตรวาสก ถือ บาตรและจีวร มีพระเจตกะเป็นปัจฉาสมณะ
๑ เข้าไปยังนิเวศน์ของสุภมาณพ- โตเทยยบุตรแล้วนั่งบนอาสนะที่เขาปูไว้
สุภมาณพโตเทยยบุตรเข้าไปหาท่านพระอานนท์ สนทนากันพอคุ้นเคยดีแล้ว นั่งลง ณ ที่สมควรแล้วถามว่า “ท่านอานนท์เป็นพระอุปัฏฐาก อยู่เฝ้าใกล้ชิดเบื้อง พระยุคลบาทของท่านพระโคดมมานาน ท่านอานนท์คงจะทราบธรรมที่ท่านพระโค ดมตรัสสรรเสริญและทรงให้ประชาชนสมาทานตั้งมั่นอยู่ ท่านอานนท์ ธรรมเหล่า ไหนหนอแลที่ท่านพระโคดมตรัสสรรเสริญและทรงให้ประชาชนสมาทานตั้งมั่นอยู่”
{๓๑๗} [๔๔๙] ท่านพระอานนท์ตอบว่า “มาณพ พระผู้มีพระภาคตรัสสรรเสริญและ ทรงให้ประชาชนสมาทานตั้งมั่นอยู่ในขันธ์ ๓ แล ขันธ์ ๓ อะไรบ้าง คือ อริยสีลขันธ์ อริยสมาธิขันธ์ และอริยปัญญาขันธ์ พระผู้มีพระภาคตรัสสรรเสริญและทรงให้ ประชาชนสมาทานตั้งมั่นอยู่ในขันธ์ ๓ นี้แล”
สีลขันธ์
{๓๑๘} [๔๕๐] เขาถามว่า “อริยสีลขันธ์ที่ท่านพระโคดมตรัสสรรเสริญและทรงให้ ประชาชนสมาทานตั้งมั่นอยู่เป็นอย่างไร ท่านอานนท์”
ท่านพระอานนท์ตอบว่า “มาณพ พระตถาคตเสด็จอุบัติขึ้นมาในโลกนี้ เป็น พระอรหันต์ตรัสรู้ด้วยพระองค์เองโดยชอบ เพียบพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ ฯลฯ พระองค์ทรงรู้แจ้งโลกนี้พร้อมทั้งเทวโลก มารโลก ฯลฯ ทรงประกาศพรหมจรรย์ พร้อมทั้งอรรถและพยัญชนะบริสุทธิ์บริบูรณ์ครบถ้วน คหบดี บุตรคหบดีหรือ อนุชน(คนผู้เกิดภายหลัง)ในตระกูลใดตระกูลหนึ่ง ได้สดับธรรมนั้นแล้วเกิดศรัทธาใน