หน้าหลัก พระไตรปิฏก AI ธรรมะ E-Book ฐานข้อมูลวัด ติดต่อเรา
พุทธบริษัท
พระไตรปิฏกฉบับมหาจุฬาราชวิทยาลัย เล่มที่ 10 หน้าที่ 146 | Buddhaparisa.org
หน้าหลัก / พระสุตตันตปิฏก
พระไตรปิฏกฉบับมจร. เล่มที่ 10
<< | หน้าที่ 146 | >>
{๑๒๕} พระพุทธเจ้าผู้เป็นพระศาสดา ผู้ทรงเข้าถึงสภาวะตามความเป็นจริง หาผู้ใดในโลกเสมอเหมือนมิได้ เสด็จถึงแม่น้ำกกุธา ที่มีน้ำใส จืดสนิท สะอาด ลงสรงแล้วจึงทรงคลายเหน็ดเหนื่อย

พระบรมศาสดาผู้ทรงพร่ำสอนแจกแจงธรรม ในพระศาสนานี้ เป็นผู้แสวงหาคุณใหญ่ ครั้นสรงสนานและทรงดื่มน้ำแล้ว ก็เสด็จนำหน้าหมู่ภิกษุไปยังอัมพวัน รับสั่งภิกษุชื่อจุนทกะมาตรัสว่า 'เธอช่วยปูสังฆาฏิซ้อนกัน ๔ ชั้นให้เป็นที่นอนพักแก่เรา'

ท่านพระจุนทกะรูปนั้น ผู้ได้รับการฝึกมาดีแล้ว พอได้รับคำสั่งก็รีบปูสังฆาฏิซ้อนกัน ๔ ชั้น พระศาสดาบรรทมแล้ว ทรงหายเหน็ดเหนื่อย ฝ่ายท่านพระจุนทกะ ก็นั่งเฝ้าเฉพาะพระพักตร์อยู่ในที่นั้น

{๑๒๖} [๑๙๗] ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาครับสั่งเรียกท่านพระอานนท์มาตรัสว่า "อานนท์ อาจมีใครทำให้นายจุนทกัมมารบุตรร้อนใจว่า 'จุนทะ การที่พระตถาคตเสวย บิณฑบาตของท่านเป็นมื้อสุดท้ายแล้วปรินิพพาน ท่านจะไม่ได้อานิสงส์ ความดีงาม ก็จะได้โดยยาก'

อานนท์ เธอพึงช่วยบรรเทาความร้อนใจของนายจุนทกัมมารบุตรอย่างนี้ว่า 'ผู้มีอายุจุนทะ การที่พระตถาคตเสวยบิณฑบาตของท่านเป็นมื้อสุดท้ายแล้วปรินิพพาน ท่านจะได้รับอานิสงส์ ความดีงามก็จะได้โดยง่าย เรื่องนี้เราได้สดับรับมาเฉพาะพระพักตร์ พระผู้มีพระภาค และจำได้ว่า 'บิณฑบาต ๒ คราว มีผลเสมอกัน มีวิบากเสมอกัน มีผลมากกว่า มีอานิสงส์มากกว่า ยิ่งกว่าบิณฑบาตอื่น ๆ


สารบัญ พระไตรปิฏก

พระไตรปิฏก
พระไตรปิฏก
พระวินัยปิฏก
พระวินัย
พระสุตตันตปิฏก
พระสูตร
พระอภิธรรมปิฏก
พระอภิธรรม