พระไตรปิฏก ฉบับมจร. เล่มที่ 1 หน้าที่ 435
ผู้เป็นวรรณะศูทรจึงโจทว่า “ข้าพเจ้าเห็นภิกษุผู้เป็นวรรณะศูทรต้องอาบัติปาราชิก ท่านไม่เป็นสมณะ ไม่เป็นเชื้อสายศากยบุตร ฯลฯ” ต้องอาบัติสังฆาทิเสสทุก ๆ คำพูด
{๕๗๑} [๓๙๖] ชื่อว่า เลศคือชื่อ อธิบายว่า ภิกษุผู้โจทก์ได้เห็นพระพุทธรักขิต ฯลฯ ได้เห็นพระธัมมรักขิต ฯลฯ ได้เห็นพระสังฆรักขิตต้องอาบัติปาราชิก ครั้นเห็นภิกษุ อีกรูปหนึ่งผู้ชื่อว่าสังฆรักขิตจึงโจทว่า “ข้าพเจ้าเห็นพระสังฆรักขิตต้องอาบัติปาราชิก แล้ว ท่านไม่เป็นสมณะ ไม่เป็นเชื้อสายศากยบุตร ฯลฯ” ต้องอาบัติสังฆาทิเสส ทุกๆ คำพูด
{๕๗๒} [๓๙๗] ชื่อว่า เลศคือตระกูล อธิบายว่า ภิกษุผู้โจทก์ ได้เห็นภิกษุในตระกูล โคตมะ ฯลฯ ได้เห็นภิกษุในตระกูลโมคคัลลานะ ฯลฯ ได้เห็นภิกษุในตระกูลกัจจายนะ ฯลฯ ได้เห็นภิกษุในตระกูลวาสิฏฐะต้องอาบัติปาราชิก ครั้นเห็นภิกษุอีกรูปหนึ่งใน ตระกูลวาสิฏฐะจึงโจทว่า ข้าพเจ้าเห็นภิกษุในตระกูลวาสิฏฐะต้องอาบัติปาราชิกแล้ว ท่านไม่เป็นสมณะ ไม่เป็นเชื้อสายศากยบุตร ฯลฯ ต้องอาบัติสังฆาทิเสส ทุกๆ คำพูด
{๕๗๓} [๓๙๘] ชื่อว่า เลศคือรูปลักษณ์ อธิบายว่า ภิกษุผู้โจทก์ ได้เห็นภิกษุสูง ฯลฯ ได้เห็นภิกษุต่ำ ฯลฯ ได้เห็นภิกษุผิวดำ ฯลฯ ได้เห็นภิกษุผิวขาวต้องปาราชิก ครั้น เห็นภิกษุอีกรูปหนึ่งผู้มีผิวขาวจึงโจทว่า “ข้าพเจ้าเห็นภิกษุผิวขาวต้องอาบัติปาราชิก แล้ว ท่านไม่เป็นสมณะ ไม่เป็นเชื้อสายศากยบุตร ฯลฯ” ต้องอาบัติสังฆาทิเสส ทุกๆ คำพูด
{๕๗๔} [๓๙๙] ชื่อว่า เลศคืออาบัติ อธิบายว่า ภิกษุผู้โจทก์ เห็นภิกษุต้องอาบัติเบา ถ้าโจทภิกษุนั้นด้วยอาบัติปาราชิกว่า ข้าพเจ้าเห็นท่านต้องอาบัติปาราชิกแล้ว ท่าน ไม่เป็นสมณะ ไม่เป็นเชื้อสายศากยบุตร ฯลฯ ต้องอาบัติสังฆาทิเสส ทุกๆ คำพูด
{๕๗๕} [๔๐๐] ชื่อว่า เลศคือบาตร อธิบายว่า ภิกษุผู้โจทก์ได้เห็นภิกษุใช้บาตรโลหะ ฯลฯ ได้เห็นภิกษุใช้บาตรดินเหนียว ฯลฯ ได้เห็นภิกษุใช้บาตรเคลือบ ฯลฯ ได้เห็น ภิกษุใช้บาตรดินธรรมดา ต้องอาบัติปาราชิก ครั้นเห็นภิกษุอีกรูปหนึ่งใช้บาตรดินธรรมดา จึงโจทว่า ข้าพเจ้าเห็นภิกษุใช้บาตรดินธรรมดาต้องอาบัติปาราชิกแล้ว ท่านไม่เป็น สมณะ ไม่เป็นเชื้อสายศากยบุตร ฯลฯ ต้องอาบัติสังฆาทิเสส ทุกๆ คำพูด