หน้าหลัก ฐานข้อมูลวัด E-Book AI ธรรมะ พระไตรปิฏก ติดต่อเรา
พุทธบริษัท
พระไตรปิฏกฉบับมหาจุฬาราชวิทยาลัย เล่มที่ 1 หน้าที่ 437 | Buddhaparisa.org

หน้าหลัก / พระไตรปิฏก / พระวินัยปิฏก

พระไตรปิฏก ฉบับมจร. เล่มที่ 1 หน้าที่ 437

{๕๘๑} คำว่า ครั้นสมัยต่อจากนั้น ความว่า ล่วงขณะ ลยะ ครู่ที่ภิกษุถูกใส่ความไป แล้ว

คำว่า อันผู้ใดผู้หนึ่งโจทก็ตาม คือ จะมีผู้เชื่อถือตามเรื่องที่ทำให้ภิกษุนั้นถูก ใส่ความก็ตาม

คำว่า ไม่โจทก็ตาม คือ ไม่มีใครๆ กล่าวถึงภิกษุนั้น

{๕๘๒} ชื่อว่า อธิกรณ์ ได้แก่ อธิกรณ์ ๔ อย่างคือ วิวาทาธิกรณ์ อนุวาทาธิกรณ์ อาปัตตาธิกรณ์ และกิจจาธิกรณ์

{๕๘๓} คำว่า อ้างเอาบางส่วน...เป็นเลศ คือ ถือเอาเลศ ๑๐ อย่างนั้น อย่างใด อย่างหนึ่ง

{๕๘๔} คำว่า และภิกษุยอมรับผิด ความว่า ภิกษุนั้นยอมรับว่า “ข้าพเจ้าพูดคำไร้ ประโยชน์ พูดเท็จ พูดไม่จริง ไม่รู้จึงพูด”

คำว่า สังฆาทิเสส ความว่า สำหรับอาบัตินั้น สงฆ์เท่านั้นให้ปริวาส ฯลฯ เพราะเหตุนั้น พระผู้มีพระภาคจึงตรัสเรียกว่า “เป็นสังฆาทิเสส”

บทภาชนีย์


เอเกกมูลจักร


โจทภิกษุผู้ต้องอาบัติสังฆาทิเสส


{๕๘๕} [๔๐๖] ภิกษุผู้โจทก์ได้เห็นภิกษุต้องอาบัติสังฆาทิเสส มีความเห็นอาบัติ สังฆาทิเสสว่าเป็นอาบัติสังฆาทิเสส ถ้าเธอโจทภิกษุนั้นด้วยอาบัติปาราชิกว่า “ท่าน ไม่เป็นสมณะ ไม่เป็นเชื้อสายศากยบุตร ท่านร่วมอุโบสถ ปวารณาหรือสังฆกรรม ไม่ได้” แม้อย่างนี้ อธิกรณ์นั้นย่อมเป็นข้ออื่น และเธออ้างเอาเป็นเลศ ต้องอาบัติ สังฆาทิเสส ทุก ๆ คำพูด

ภิกษุผู้โจทก์ได้เห็นภิกษุต้องอาบัติสังฆาทิเสส แต่มีความเห็นอาบัติ สังฆาทิเสสว่าเป็นอาบัติถุลลัจจัย ถ้าเธอโจทภิกษุนั้นด้วยอาบัติปาราชิกว่า “ท่านไม่ เป็นสมณะ ฯลฯ” แม้อย่างนี้ อธิกรณ์นั้นย่อมเป็นอาบัติข้ออื่นและเธออ้างเอาเป็นเลศ ต้องอาบัติสังฆาทิเสส ทุก ๆ คำพูด


สารบัญ พระไตรปิฏก

พระไตรปิฏก
บาลีไวยากรณ์
พระวินัยปิฏก
E-Book บาลี
พระสุตตันตปิฏก
ข้อสอบบาลี
พระอภิธรรมปิฏก
ข้อสอบบาลี