เรื่องนักบวชเปลือยชื่อปาฏิกบุตร
{๖} [๑๕] ภัคควะ สมัยหนึ่ง เราอยู่ที่กูฏาคารศาลาในป่ามหาวัน เขตกรุง เวสาลีนั้น สมัยนั้น นักบวชเปลือยชื่อปาฏิกบุตรอาศัยอยู่ที่วัชชีคาม เขตกรุง เวสาลี ถึงความเป็นผู้เลิศด้วยลาภและถึงความเป็นผู้เลิศด้วยยศ เขาชอบพูดอวด ในบริษัท ในกรุงเวสาลีอย่างนี้ว่า ‘พระสมณโคดมเป็นญาณวาท เราก็เป็น ญาณวาท
๑ด้วย ผู้เป็นญาณวาทควรจะแสดงอิทธิปาฏิหาริย์อันเหนือธรรมดาของ มนุษย์กับผู้เป็นญาณวาทด้วยกัน ขอให้พระสมณโคดมเสด็จมาครึ่งทาง แม้เราก็จะ ไปครึ่งทาง ณ ที่พบกันนั้น เราทั้งสองพึงแสดงอิทธิปาฏิหาริย์อันเหนือธรรมดา ของมนุษย์ด้วยกัน ถ้าพระสมณโคดมจักทรงแสดงอิทธิปาฏิหาริย์อันเหนือธรรมดา ของมนุษย์ ๑ อย่าง เราจักแสดง ๒ อย่าง ถ้าพระสมณโคดมจักทรงแสดงอิทธิ- ปาฏิหาริย์อันเหนือธรรมดาของมนุษย์ ๒ อย่าง เราจักแสดง ๔ อย่าง ถ้าพระ สมณโคดมจักทรงแสดงอิทธิปาฏิหาริย์อันเหนือธรรมดาของมนุษย์ ๔ อย่าง เรา จักแสดง ๘ อย่าง พระสมณโคดมจักทรงแสดงอิทธิปาฏิหาริย์อันเหนือธรรมดาของ มนุษย์มากเท่าใด ๆ ก็ตาม เราจักแสดงให้มากกว่านั้นเป็นทวีคูณ’
[๑๖] ภัคควะ สุนักขัตตะ ลิจฉวีบุตร เข้าไปหาเราถึงที่อยู่ ไหว้เราแล้วนั่ง ณ ที่สมควร ได้กล่าวกับเราดังนี้ว่า ‘ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ นักบวชเปลือยปาฏิกบุตร อาศัยอยู่ที่วัชชีคาม เขตกรุงเวสาลี ถึงความเป็นผู้เลิศด้วยลาภและถึงความเป็นผู้ เลิศด้วยยศ เขาชอบพูดอวดในบริษัท ในกรุงเวสาลีอย่างนี้ว่า ‘พระสมณโคดมเป็น ญาณวาท เราก็เป็นญาณวาทด้วย ผู้เป็นญาณวาทควรจะแสดงอิทธิปาฏิหาริย์ อันเหนือธรรมดาของมนุษย์กับผู้เป็นญาณวาทด้วยกัน ขอให้พระสมณโคดมเสด็จมา ครึ่งทาง แม้เราก็จะไปครึ่งทาง ณ ที่พบกันนั้น เราทั้งสองพึงแสดงอิทธิปาฏิหาริย์ อันเหนือธรรมดาของมนุษย์ด้วยกัน ถ้าพระสมณโคดมจักทรงแสดงอิทธิปาฏิหาริย์ อันเหนือธรรมดาของมนุษย์ ๑ อย่าง เราจักแสดง ๒ อย่าง ถ้าพระสมณโคดม