๔. บุคคลบรรลุอากาสานัญจายตนฌานโดยกำหนดว่า ‘อากาศหา ที่สุดมิได้’ อยู่ เพราะล่วงรูปสัญญา ดับปฏิฆสัญญา ไม่กำหนด นานัตตสัญญาโดยประการทั้งปวง นี้เป็นวิโมกข์ประการที่ ๔
๕. บุคคลล่วงอากาสานัญจายตนฌานโดยประการทั้งปวง บรรลุ วิญญาณัญจายตนฌานโดยกำหนดว่า ‘วิญญาณหาที่สุดมิได้’ อยู่ นี้เป็นวิโมกข์ประการที่ ๕
๖. บุคคลล่วงวิญญาณัญจายตนฌานโดยประการทั้งปวง บรรลุ อากิญจัญญายตนฌานโดยกำหนดว่า ‘ไม่มีอะไร’ อยู่ นี้เป็น วิโมกข์ประการที่ ๖
๗. บุคคลล่วงอากิญจัญญายนฌานโดยประการทั้งปวง บรรลุ เนวสัญญานาสัญญายตนฌานอยู่ นี้เป็นวิโมกข์ประการที่ ๗
๘. บุคคลล่วงเนวสัญญานาสัญญายตนฌานโดยประการทั้งปวง บรรลุสัญญาเวทยิตนิโรธอยู่ นี้เป็นวิโมกข์ประการที่ ๘
นี้ คือธรรม ๘ ประการที่ควรทำให้แจ้ง
ธรรม ๘๐ ประการนี้ เป็นของจริง เป็นของแท้ แน่นอน ไม่ผิดพลาด ไม่เป็น อย่างอื่น ที่พระตถาคตตรัสรู้แล้วโดยชอบ ด้วยประการฉะนี้
ธรรม ๙ ประการ
{๔๕๔} [๓๕๙] ธรรม ๙ ประการที่มีอุปการะมาก ธรรม ๙ ประการที่ควรเจริญ
ธรรม ๙ ประการที่ควรกำหนดรู้ ธรรม ๙ ประการที่ควรละ
ธรรม ๙ ประการที่เป็นไปในฝ่ายเสื่อม ธรรม ๙ ประการที่เป็นไปในฝ่าย คุณวิเศษ
ธรรม ๙ ประการที่แทงตลอดได้ยาก ธรรม ๙ ประการที่ควรให้เกิดขึ้น
ธรรม ๙ ประการที่ควรรู้ยิ่ง ธรรม ๙ ประการที่ควรทำให้แจ้ง
{๔๕๕}(ก) ธรรม ๙ ประการที่มีอุปการะมาก คืออะไร
คือ ธรรมมีโยนิโสมนสิการเป็นมูล ๙ ได้แก่
๑. บุคคลมนสิการโดยแยบคาย ปราโมทย์ย่อมเกิด
๒. เมื่อมีปราโมทย์ ปีติย่อมเกิด