หน้าหลัก พระไตรปิฏก AI ธรรมะ E-Book ฐานข้อมูลวัด ติดต่อเรา
พุทธบริษัท
พระไตรปิฏกฉบับมหาจุฬาราชวิทยาลัย เล่มที่ 12 หน้าที่ 488 | Buddhaparisa.org
หน้าหลัก / พระสุตตันตปิฏก
พระไตรปิฏกฉบับมจร. เล่มที่ 12
<< | หน้าที่ 488 | >>
๓. มหาเวทัลลสูตร


ว่าด้วยการสนทนาธรรมที่ทำให้เกิดปัญญา สูตรใหญ่


ปัญญากับวิญญาณ


{๔๙๓} [๔๔๙] ข้าพเจ้าได้สดับมาอย่างนี้

สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของอนาถ บิณฑิกเศรษฐี เขตกรุงสาวัตถี ครั้นในเวลาเย็น ท่านพระมหาโกฏฐิกะออกจากที่ หลีกเร้น แล้ว เข้าไปหาท่านพระสารีบุตรถึงที่อยู่ ได้สนทนาปราศรัยพอเป็นที่ บันเทิงใจ พอเป็นที่ระลึกถึงกันแล้ว นั่ง ณ ที่สมควร

{๔๙๔} ท่านพระมหาโกฏฐิกะครั้นนั่งเรียบร้อยแล้ว จึงถามเรื่องนี้กับท่านพระสารีบุตรว่า

“ท่านผู้มีอายุ บุคคลที่เรียกว่า ‘ผู้มีปัญญาทราม ผู้มีปัญญาทราม’ เพราะ เหตุไรหนอแล จึงเรียกว่า ‘ผู้มีปัญญาทราม”

ท่านพระสารีบุตรตอบว่า “ท่านผู้มีอายุ บุคคลไม่รู้ชัด บุคคลไม่รู้ชัด เหตุนั้น จึงเรียกว่า ‘ผู้มีปัญญาทราม’ บุคคลไม่รู้ชัดอะไร คือ ไม่รู้ชัดว่า ‘นี้ทุกข์ นี้ทุกขสมุทัย นี้ทุกขนิโรธ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา’ เหตุนั้น บุคคลไม่รู้ชัด บุคคลไม่รู้ชัด จึงเรียกว่า ‘ผู้มีปัญญาทราม’

ท่านพระมหาโกฏฐิกะชื่นชมยินดีภาษิตของท่านพระสารีบุตรว่า “ดีละ ท่านผู้ มีอายุ” แล้วได้ถามปัญหาต่อไปว่า “ท่านผู้มีอายุ บุคคลที่เรียกว่า ‘ผู้มีปัญญา ผู้มีปัญญา’ เพราะเหตุไรหนอแลจึงเรียกว่า ‘ผู้มีปัญญา’

๑ ดูเชิงอรรถที่ ๑ ขัอ ๘๑ (สัลเลขสูตร) หน้า ๗๐ ในเล่มนี้
๒ คำว่า เพราะเหตุไรหนอแล แปลจากคำว่า “กิตฺตาวตา นุโข” เป็นคำถามหาเหตุ แท้จริงการถามนั้นมี ๕ อย่าง คือ (๑) อทิฏฐโชตนาปุจฉา การถามให้แสดงเรื่องที่ตนไม่เคยเห็นไม่เคยรู้มาก่อน (๒) ทิฏฐ สังสันทนาปุจฉา การถามให้ชี้แจงเรื่องที่เคยทราบมาแล้ว เมื่อเทียบกันดูกับเรื่องที่ตนรู้มา (๓) วิมติ เฉทนาปุจฉา การถามเพื่อให้คลายความสงสัย (๔) อนุมติปุจฉา การถามเพื่อให้มีความคิดเห็นคล้อยตาม (๕) กเถตุกามยตาปุจฉา การถามเพื่อมุ่งจะกล่าวชี้แจงต่อ เป็นลักษณะของการถามเอง ตอบเอง ในที่นี้ พระมหาโกฏฐิกะถามในลักษณะของทิฏฐสังสันทนาปุจฉา (ม.มู.อ. ๒/๔๔๙/๒๔๒๒๔๓)

สารบัญ พระไตรปิฏก

พระไตรปิฏก
บาลีไวยากรณ์
พระวินัยปิฏก
พระวินัย
พระสุตตันตปิฏก
พระสูตร
พระอภิธรรมปิฏก
พระอภิธรรม