จากบิณฑบาตหลังจากฉันอาหาร ล้างเท้าแล้วเข้ากุฏิ นั่งบนเตียง ทันใดนั้นเขาจึง ออกมาข่มขืนภิกษุณี ภิกษุณีไปบอกภิกษุณีทั้งหลาย ภิกษุณีทั้งหลายจึงบอกเรื่องนั้น แก่ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุทั้งหลายจึงนำเรื่องนั้นไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ พระองค์ตรัสว่า “ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุณีอุบลวรรณานั้นไม่ยินดี ไม่ต้องอาบัติ” (เรื่อง ที่ ๑๓)
เรื่องเพศกลับ ๒ เรื่อง
{๕๖} [๖๙] สมัยนั้น ภิกษุรูปหนึ่ง เพศกลับกลายเป็นหญิง ภิกษุทั้งหลายจึงนำ เรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ มีพระพุทธานุญาตว่า “ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ถืออุปัชฌาย์เดิม ให้ถืออุปสมบทเดิม นับพรรษาเดิม และให้อยู่ร่วม กับภิกษุณีทั้งหลายได้ เราอนุญาตให้ปลงอาบัติของภิกษุทั้งหลายที่ทั่วไปกับภิกษุณี ทั้งหลายในสำนักภิกษุณี เธอไม่ต้องอาบัติของภิกษุทั้งหลายที่ไม่ทั่วไปกับภิกษุณี ทั้งหลาย” (เรื่องที่ ๑๔)
สมัยนั้น ภิกษุณีรูปหนึ่ง เพศกลับกลายเป็นชาย ภิกษุทั้งหลาย จึงนำเรื่องนี้ ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ มีพระพุทธานุญาตว่า “เราอนุญาตให้ถือ อุปัชฌาย์เดิม ให้ถืออุปสมบทเดิม นับพรรษาเดิมและให้อยู่ร่วมกับภิกษุทั้งหลายได้ เราอนุญาตให้ปลงอาบัติของภิกษุณีทั้งหลายที่ทั่วไปกับภิกษุในสำนักภิกษุ เธอไม่ ต้องอาบัติของภิกษุณีทั้งหลายที่ไม่ทั่วไปกับภิกษุทั้งหลาย” (เรื่องที่ ๑๕)
เรื่องมารดา ๑ เรื่อง
{๕๗} [๗๐] สมัยนั้น ภิกษุรูปหนึ่ง เสพเมถุนธรรมกับมารดา ด้วยคิดว่า อย่างนี้ เราจะไม่ต้องอาบัติ แล้วเกิดความกังวลใจว่า พระผู้มีพระภาคทรงบัญญัติสิกขาบทไว้ แล้ว เราต้องอาบัติปาราชิกหรือหนอ จึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรง ทราบ พระองค์ตรัสว่า “ภิกษุ เธอต้องอาบัติปาราชิก” (เรื่องที่ ๑๖)
เรื่องธิดา ๑ เรื่อง
สมัยนั้น ภิกษุรูปหนึ่ง เสพเมถุนธรรมกับธิดา ด้วยคิดว่า อย่างนี้ เราจะไม่ ต้องอาบัติ แล้วเกิดความกังวลใจว่า พระผู้มีพระภาคทรงบัญญัติสิกขาบทไว้แล้ว เรา