หน้าหลัก พระไตรปิฏก AI ธรรมะ E-Book ฐานข้อมูลวัด ติดต่อเรา
พุทธบริษัท
พระไตรปิฏกฉบับมหาจุฬาราชวิทยาลัย เล่มที่ 13 หน้าที่ 311 | Buddhaparisa.org
หน้าหลัก / พระสุตตันตปิฏก
พระไตรปิฏกฉบับมจร. เล่มที่ 13
<< | หน้าที่ 311 | >>
เรากล่าวว่า ‘ข้อที่ความดำริที่เป็นอกุศลดับไปโดยไม่เหลือในที่นี้ เป็นสิ่งที่ บุคคลควรรู้’

เรากล่าวว่า ‘ข้อที่บุคคลผู้ปฏิบัติอย่างนี้ ชื่อว่าเป็นผู้ปฏิบัติเพื่อความดับแห่ง ความดำริที่เป็นอกุศล เป็นสิ่งที่บุคคลควรรู้’

เรากล่าวว่า ‘ข้อที่ความดำริเหล่านี้เป็นกุศล เป็นสิ่งที่บุคคลควรรู้’

เรากล่าวว่า ‘ข้อที่ความดำริเป็นกุศลมีสมุฏฐานมาแต่จิตนี้ เป็นสิ่งที่บุคคลควรรู้’

เรากล่าวว่า ‘ข้อที่ความดำริที่เป็นกุศลดับไปโดยไม่เหลือในที่นี้ เป็นสิ่งที่บุคคล ควรรู้’

เรากล่าวว่า ‘ข้อที่บุคคลผู้ปฏิบัติอย่างนี้ ชื่อว่าเป็นผู้ปฏิบัติเพื่อความดับแห่ง ความดำริที่เป็นกุศล เป็นสิ่งที่บุคคลควรรู้’

เสขธรรมว่าด้วยศีล


{๓๖๒} [๒๖๔] ศีลที่เป็นอกุศล เป็นอย่างไร

คือ กายกรรมที่เป็นอกุศล วจีกรรมที่เป็นอกุศล การเลี้ยงชีพที่เป็นบาปเหล่านี้ เราเรียกว่า ‘ศีลที่เป็นอกุศล’

ศีลที่เป็นอกุศลเหล่านี้มีอะไรเป็นสมุฏฐาน

คือ แม้สมุฏฐานแห่งศีลที่เป็นอกุศลเหล่านั้น เราก็ได้กล่าวไว้แล้ว สมุฏฐาน แห่งศีลนี้ควรกล่าวว่า ‘มีจิตเป็นสมุฏฐาน’

จิตดวงไหนเล่า

แท้จริงจิตมีหลายดวง มีหลายอย่าง มีหลายประการ คือ จิตที่มีราคะ จิตที่มี โทสะ และจิตที่มีโมหะ ศีลที่เป็นอกุศลมีจิตเหล่านี้เป็นสมุฏฐาน

๑ มีราคะได้แก่จิตที่สหรคตด้วยโลภะ ๘ ดวงมีโทสะได้แก่จิตที่สัมปยุตด้วยปฏิฆะ ๒ ดวงมีโมหะ ได้แก่ จิตที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและอุทธัจจะ ๒ ดวงก็ถูก แม้อกุศลจิตทุกดวงก็ถูก (ม.ม.อ. ๒/๒๖๔/๑๙๕)

สารบัญ พระไตรปิฏก

พระไตรปิฏก
พระไตรปิฏก
พระวินัยปิฏก
พระวินัย
พระสุตตันตปิฏก
พระสูตร
พระอภิธรรมปิฏก
พระอภิธรรม