หน้าหลัก พระไตรปิฏก AI ธรรมะ E-Book ฐานข้อมูลวัด ติดต่อเรา
พุทธบริษัท
พระไตรปิฏกฉบับมหาจุฬาราชวิทยาลัย เล่มที่ 14 หน้าที่ 110 | Buddhaparisa.org
หน้าหลัก / พระสุตตันตปิฏก
พระไตรปิฏกฉบับมจร. เล่มที่ 14
<< | หน้าที่ 110 | >>
๒. อนุปทวรรค


หมวดว่าด้วยธรรมตามลำดับบท


๑. อนุปทสูตร


ว่าด้วยธรรมตามลำดับบท


{๑๕๓} [๙๓] ข้าพเจ้าได้สดับมาอย่างนี้ สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของ อนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตกรุงสาวัตถี ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคได้รับสั่งเรียก ภิกษุทั้งหลายมาตรัสว่า “ภิกษุทั้งหลาย” ภิกษุเหล่านั้นทูลรับสนองพระดำรัสแล้ว

{๑๕๔} พระผู้มีพระภาคจึงได้ตรัสเรื่องนี้ว่า

“ภิกษุทั้งหลาย สารีบุตรเป็นบัณฑิต มีปัญญามาก มีปัญญากว้างขวาง มี ปัญญาร่าเริง มีปัญญารวดเร็ว มีปัญญาเฉียบแหลม มีปัญญาเพิกถอนกิเลส

๑ เป็นบัณฑิต ในที่นี้หมายถึงเป็นบัณฑิตเพราะเหตุ ๔ ประการ คือ (๑) เป็นผู้ฉลาดในธาตุ (๒) เป็น ผู้ฉลาดในอายตนะ (๓) เป็นผู้ฉลาดในปฏิจจสมุปบาท (๔) เป็นผู้ฉลาดในฐานะและอฐานะ (ม.อุ.อ. ๓/๙๒/๕๖, และดูเทียบ ขุ.ม. (แปล) ๒๙/๑๘/๘๕)
๒ มีปัญญามาก ในที่นี้หมายถึงมีปัญญามาก เพราะกำหนดถือเอาคุณคือศีล คุณคือสมาธิ คุณคือปัญญา คุณคือวิมุตติ และคุณคือวิมุตติญาณทัสสนะ (ม.อุ.อ. ๓/๙๒/๕๖)
๓ มีปัญญากว้างขวาง ในที่นี้หมายถึงมีปัญญากว้างขวาง เพราะญาณที่เป็นไปในธาตุ อายตนะ ปฏิจจ สมุปบาท สุญญตา เป็นไปในอรรถ ธรรม นิรุตติ ปฏิภาณ และเป็นไปในศีล สมาธิ ปัญญา วิมุตติ และวิมุตติญาณทัสสนะ (ม.อุ.อ. ๓/๙๒/๕๗)
๔ มีปัญญาร่าเริง ในที่นี้หมายถึงมีปัญญาร่าเริง เพราะเป็นผู้ทำสติปัฏฐาน ๔ สัมมัปปธาน ๔ อิทธิบาท ๔ อินทรีย์ ๕ พละ ๕ โพชฌงค์ ๗ และอริยมรรคมีองค์ ๘ ให้เจริญ (ม.อุ.อ. ๓/๙๒/๕๗)
๕ มีปัญญารวดเร็ว ในที่นี้หมายถึงมีปัญญารวดเร็ว เพราะแล่นไปเร็วในรูปที่เป็นอดีต อนาคต และปัจจุบัน และแล่นไปเร็วในพระนิพพานอันเป็นที่ดับชาติ ชรา มรณะ โดยพิจารณาทำให้แจ่มแจ้ง ทำให้เด่นชัดว่า รูป ฯลฯ ชรา มรณะ ไม่เที่ยง ถูกปัจจัยปรุงแต่ง อาศัยกันเกิดขึ้น มีความเสื่อมไป มีความสิ้นไป มีความคลายกำหนัด และมีความดับไปเป็นธรรมดา (ม.อุ.อ. ๓/๙๒/๕๗๕๘)
๖ มีปัญญาเฉียบแหลม ในที่นี้หมายถึงมีปัญญาเฉียบแหลม เพราะไม่ให้กามวิตก พยาบาทวิตก วิหิงสาวิตก และอุปกิเลส ๑๖ ที่เกิดขึ้นแล้วอาศัยอยู่ และเพราะบรรลุอริยมรรค ๔ สามัญญผล ๔ ปฏิสัมภิทา ๔ และอภิญญา ๖ (ม.อุ.อ. ๓/๙๒/๕๘)
๗ มีปัญญาเพิกถอนกิเลส ในที่นี้หมายถึงมีปัญญาเพิกถอนกิเลส เพราะเจาะ คือทำลายกองโลภะ กองโทสะ กองโมหะ กองอุปกิเลส ๑๖ และกรรมที่จะนำไปสู่ภพทั้งหมด ที่ยังไม่เคยเจาะทำลายมาก่อน (ม.อุ.อ. ๓/๙๒/๕๘)

สารบัญ พระไตรปิฏก

พระไตรปิฏก
บาลีไวยากรณ์
พระวินัยปิฏก
พระวินัย
พระสุตตันตปิฏก
พระสูตร
พระอภิธรรมปิฏก
พระอภิธรรม