พระไตรปิฏกฉบับมจร. เล่มที่ 14
<< | หน้าที่ 157 | >>
ฯ ล ฯ บิณฑบาตเช่นนี้ไม่ควรเสพ ฯ ล ฯ บิณฑบาตเช่นนี้ควรเสพ ฯ ล ฯ
... เสนาสนะเช่นนี้ไม่ควรเสพ ฯ ล ฯ เสนาสนะเช่นนี้ควรเสพ ฯ ล ฯ
... หมู่บ้านเช่นนี้ไม่ควรเสพ ฯ ล ฯ หมู่บ้านเช่นนี้ควรเสพ ฯ ล ฯ
... นิคมเช่นนี้ไม่ควรเสพ ฯ ล ฯ นิคมเช่นนี้ควรเสพ ฯ ล ฯ
... นครเช่นนี้ไม่ควรเสพ ฯ ล ฯ นครเช่นนี้ควรเสพ ฯ ล ฯ
... ชนบทเช่นนี้ไม่ควรเสพ ฯ ล ฯ ชนบทเช่นนี้ควรเสพ ฯ ล ฯ
พระผู้มีพระภาคตรัสพระดำรัสนี้ไว้ว่า ‘สารีบุตร เรากล่าวบุคคลไว้ ๒ จำพวก คือ
๑. บุคคลที่ควรเสพ
๒. บุคคลที่ไม่ควรเสพ’
นั่น เพราะทรงอาศัยเหตุอะไร พระผู้มีพระภาคจึงตรัสไว้เช่นนั้น
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เมื่อบุคคลเสพบุคคลเช่นใด อกุศลธรรมเจริญขึ้น กุศลธรรมเสื่อมลง บุคคลเช่นนี้ไม่ควรเสพ และเมื่อเสพบุคคลเช่นใด อกุศลธรรม เสื่อมลง กุศลธรรมเจริญขึ้น บุคคลเช่นนี้ควรเสพ
พระดำรัสที่พระผู้มีพระภาคตรัสไว้ว่า ‘สารีบุตร เรากล่าวบุคคลไว้ ๒ จำพวก คือ
๑. บุคคลที่ควรเสพ
๒. บุคคลที่ไม่ควรเสพ’
นั่น เพราะอาศัยเหตุนี้ พระองค์จึงตรัสไว้
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ทราบเนื้อความแห่งธรรมบรรยายนี้ที่พระผู้มี พระภาคตรัสไว้โดยย่อ ไม่ทรงชี้แจงเนื้อความให้พิสดาร โดยพิสดารอย่างนี้
{๒๓๒} [๑๒๒] พระผู้มีพระภาคตรัสว่า “ดีละ ดีละ สารีบุตร เธอทราบเนื้อความ แห่งธรรมบรรยายที่เรากล่าวโดยย่อ ไม่ชี้แจงเนื้อความให้พิสดารนี้ โดยพิสดาร อย่างนี้ ถูกต้องแล้ว