พระไตรปิฏกฉบับมจร. เล่มที่ 14
<< | หน้าที่ 404 | >>
๑. ผัสสายตนะคือจักขุ
๒. ผัสสายตนะคือโสตะ
๓. ผัสสายตนะคือฆานะ
๔. ผัสสายตนะคือชิวหา
๕. ผัสสายตนะคือกาย
๖. ผัสสายตนะคือมโน
คำที่เรากล่าวไว้ว่า ‘ภิกษุ บุรุษนี้มีผัสสายตนะ ๖ ประการ’ นั่น เพราะ อาศัยเหตุนี้ เราจึงกล่าวไว้
{๖๘๑} [๓๔๖] เรากล่าวคำนี้ไว้ว่า ‘ภิกษุ บุรุษนี้มีมโนปวิจาร ๑๘’ เพราะอาศัย เหตุอะไร เราจึงกล่าวไว้เช่นนั้น
คือ บุคคลเห็นรูปทางตาแล้ว ย่อมนึกหน่วงรูปอันเป็นที่ตั้งแห่งโสมนัส ย่อม นึกหน่วงรูปอันเป็นที่ตั้งแห่งโทมนัส ย่อมนึกหน่วงรูปอันเป็นที่ตั้งแห่งอุเบกขา
ฟังเสียงทางหูแล้ว ...
ดมกลิ่นทางจมูกแล้ว ...
ลิ้มรสทางลิ้นแล้ว ...
ถูกต้องโผฏฐัพพะทางกายแล้ว ...
รู้แจ้งธรรมารมณ์ทางใจแล้ว ย่อมนึกหน่วงธรรมารมณ์อันเป็นที่ตั้งแห่งโสมนัส ย่อมนึกหน่วงธรรมารมณ์อันเป็นที่ตั้งแห่งโทมนัส ย่อมนึกหน่วงธรรมารมณ์อันเป็น ที่ตั้งแห่งอุเบกขา
ความนึกหน่วงโสมนัส ๖ ความนึกหน่วงโทมนัส ๖ ความนึกหน่วงอุเบกขา ๖ ย่อมมีด้วยประการฉะนี้
คำที่เรากล่าวไว้ว่า ‘ภิกษุ บุรุษนี้มีมโนปวิจาร ๑๘’ นั่น เพราะอาศัยเหตุนี้ เราจึงกล่าวไว้
{๖๘๒} [๓๔๗] เรากล่าวคำนี้ไว้ว่า ‘ภิกษุ บุรุษนี้มีอธิษฐานธรรม ๔ ประการ’ เพราะอาศัยเหตุอะไร เราจึงกล่าวไว้เช่นนั้น
คือ
๑. อธิษฐานธรรมคือปัญญา
๒. อธิษฐานธรรมคือสัจจะ
๓. อธิษฐานธรรมคือจาคะ
๔. อธิษฐานธรรมคืออุปสมะ