หน้าหลัก ฐานข้อมูลวัด E-Book AI ธรรมะ พระไตรปิฏก ติดต่อเรา
พุทธบริษัท
พระไตรปิฏกฉบับมหาจุฬาราชวิทยาลัย เล่มที่ 33 หน้าที่ 736 | Buddhaparisa.org

หน้าหลัก / พระไตรปิฏก / พระอภิธรรมปิฏก

พระไตรปิฏก ฉบับมจร. เล่มที่ 33 หน้าที่ 736

[๖๕] เมื่อเราจะให้ทานก็ดี กำลังให้ทานก็ดี ให้ทานแล้วก็ดี

จิตของเราไม่เป็นอย่างอื่น เพราะเหตุแห่งพระโพธิญาณเท่านั้น

[๖๖] จักษุทั้ง ๒ เป็นที่น่าเกลียดชังสำหรับเราก็หาไม่

แม้ตัวเราเองจะเป็นที่เกลียดชังก็หาไม่

แต่พระสัพพัญญุตญาณเป็นที่รักของเรา

เพราะฉะนั้น เราจึงได้ให้จักษุ ฉะนี้แล

สิวิราชจริยาที่ ๘ จบ


๙. เวสสันตรจริยา


ว่าด้วยพระจริยาของพระเวสสันดร


{๙} [๖๗] นางกษัตริย์พระนามว่าผุสดีพระชนนีของเรา

เป็นพระมเหสีที่รักของท้าวสักกะ ในอดีตชาติ

[๖๘] ท้าวสักกะจอมเทพทรงทราบว่าพระนางจะสิ้นอายุ

จึงตรัสดังนี้ว่า ‘นางผู้เจริญ เราจะให้พร ๑๐ ประการ

ที่เธอปรารถนาแก่เธอ’

[๖๙] พอท้าวสักกะตรัสอย่างนั้นแล้ว

พระเทวีนั้นได้ทูลท้าวสักกะดังนี้ว่า

หม่อมฉันมีความผิดอะไรหนอ

หม่อมฉันเป็นที่น่ารังเกียจสำหรับพระองค์หรือหนอ

พระองค์จึงจะให้หม่อมฉันเคลื่อนจากสถานอันน่ารื่นรมย์

เหมือนลมพัดต้นไม้ให้หวั่นไหว

๑ พร ๑๐ ประการ คือ (๑) ขอให้ได้เป็นพระมเหสีของพระองค์ทุกชาติ (๒) ขอให้มีพระเนตรสีเขียว (๓) ขอ ให้มีพระโขนงสีเขียว (๔) ขอให้มีนามว่าผุสดี (๕) ขอให้ได้บุตรที่ประกอบด้วยคุณ (๖) ตั้งครรภ์มีอุทรไม่นูนขึ้น (๗) มีถันไม่ยาน (๘) ผมไม่หงอก (๙) มีผิวละเอียด (๑๐) ไม่เป็นหมัน (ขุ.จริยา.อ. ๗๒/๙๓)

สารบัญ พระไตรปิฏก

พระไตรปิฏก
บาลีไวยากรณ์
พระวินัยปิฏก
E-Book บาลี
พระสุตตันตปิฏก
ข้อสอบบาลี
พระอภิธรรมปิฏก
ข้อสอบบาลี