พระไตรปิฏก ฉบับมจร. เล่มที่ 40 หน้าที่ 4 
          มโนธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนธาตุนั้น เป็นปัจจัยแก่มโนวิญญาณธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนวิญญาณธาตุนั้นโดยอนันตรปัจจัย
    โสตวิญญาณธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยโสตวิญญาณธาตุนั้นเป็นปัจจัย แก่มโนธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนธาตุนั้นโดยอนันตรปัจจัย
    มโนธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนธาตุนั้น เป็นปัจจัยแก่มโนวิญญาณธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนวิญญาณธาตุนั้นโดยอนันตรปัจจัย
    ฆานวิญญาณธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยฆานวิญญาณธาตุนั้นเป็นปัจจัย แก่มโนธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนธาตุนั้นโดยอนันตรปัจจัย
    มโนธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนธาตุนั้น เป็นปัจจัยแก่มโนวิญญาณธาตุ และสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนวิญญาณธาตุนั้นโดยอนันตรปัจจัย
    ชิวหาวิญญาณธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยชิวหาวิญญาณธาตุนั้น เป็น ปัจจัยแก่มโนธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนธาตุนั้นโดยอนันตรปัจจัย
    มโนธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนธาตุนั้น เป็นปัจจัยแก่มโนวิญญาณธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนวิญญาณธาตุนั้นโดยอนันตรปัจจัย
    กายวิญญาณธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยกายวิญญาณธาตุนั้นเป็นปัจจัย แก่มโนธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนธาตุนั้นโดยอนันตรปัจจัย
    มโนธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนธาตุนั้น เป็นปัจจัยแก่มโนวิญญาณธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนวิญญาณธาตุนั้นโดยอนันตรปัจจัย
    สภาวธรรมที่เป็นกุศลซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นกุศลซึ่งเกิด หลัง ๆ โดยอนันตรปัจจัย
    สภาวธรรมที่เป็นกุศลซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต ซึ่งเกิดหลัง ๆ โดยอนันตรปัจจัย
    สภาวธรรมที่เป็นอกุศลซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอกุศล ซึ่งเกิดหลัง ๆ โดยอนันตรปัจจัย