อารัมมณมูลกนัยเป็นต้น
{๔๑} [๓๙] สภาวธรรมที่เป็นกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลพึงเกิดขึ้นเพราะ อารัมมณปัจจัย เพราะเหตุปัจจัยได้บ้างไหม เพราะอารัมมณปัจจัย เพราะอธิปติปัจจัย ฯลฯ เพราะอารัมมณปัจจัย เพราะอวิคตปัจจัยได้บ้างไหม
สภาวธรรมที่เป็นกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลพึงเกิดขึ้นเพราะอธิปติปัจจัย ได้บ้างไหม เพราะอนันตรปัจจัย เพราะสมนันตรปัจจัย เพราะสหชาตปัจจัย เพราะอัญญมัญญปัจจัย เพราะอวิคตปัจจัย เพราะเหตุปัจจัย เพราะอวิคตปัจจัย เพราะอารัมมณปัจจัย เพราะอวิคตปัจจัย เพราะอธิปติปัจจัย ฯลฯ เพราะ อวิคตปัจจัย เพราะวิคตปัจจัยได้บ้างไหม
ทุมูลกนัย จบ
{๔๒} [๔๐] สภาวธรรมที่เป็นกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลพึงเกิดขึ้นเพราะ อวิคตปัจจัย เพราะเหตุปัจจัย เพราะอารัมมณปัจจัยได้บ้างไหม เพราะอวิคตปัจจัย เพราะเหตุปัจจัย เพราะอธิปติปัจจัย เพราะอวิคตปัจจัย เพราะเหตุปัจจัย เพราะ อนันตรปัจจัย ฯลฯ เพราะอวิคตปัจจัย เพราะเหตุปัจจัย เพราะวิคตปัจจัยได้ บ้างไหม
{๔๓} [๔๑] สภาวธรรมที่เป็นกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลพึงเกิดขึ้นเพราะ อวิคตปัจจัย เพราะเหตุปัจจัย เพราะอารัมมณปัจจัย เพราะอธิปติปัจจัยได้บ้างไหม เพราะอวิคตปัจจัย เพราะเหตุปัจจัย เพราะอารัมมณปัจจัย เพราะอนันตรปัจจัย ฯลฯ เพราะวิคตปัจจัยได้บ้างไหม
{๔๔} (ผู้รู้พึงอธิบายเอกมูลกนัย ทุมูลกนัย ติมูลกนัย จตุมูลกนัย ปัญจมูลกนัย สัพพมูลกนัยของบทแต่ละบทให้พิสดาร)
อนุโลมมีนัยอันลึกซึ้ง ๖ ประการ คือ
๑. ติกปัฏฐาน ๒. ทุกปัฏฐาน
๓. ทุกติกปัฏฐาน ๔. ติกทุกปัฏฐาน
๕. ติกติกปัฏฐาน ๖. ทุกทุกปัฏฐาน
แต่ละปัฏฐานประเสริฐสูงสุด