หน้าหลัก พระไตรปิฏก AI ธรรมะ E-Book ฐานข้อมูลวัด ติดต่อเรา
พุทธบริษัท
พระไตรปิฏกฉบับมหาจุฬาราชวิทยาลัย เล่มที่ 10 หน้าที่ 283 | Buddhaparisa.org
หน้าหลัก / พระสุตตันตปิฏก
พระไตรปิฏกฉบับมจร. เล่มที่ 10
<< | หน้าที่ 283 | >>
เทพทั้งหมดพร้อมทั้งพระอินทร์และพระปชาบดี เข้าไปนั่งประชุมกันในสุธัมมาเทวสภา ซึ่งล้วนแต่เป็นผู้กล้า ปราศจากราคะ กำลังบำเพ็ญธรรมที่ปราศจากความกำหนัด ได้ก้าวล่วงเทพพวกนั้นที่นั่งอยู่

ท้าววาสวะผู้เป็นใหญ่กว่าเทพ ทอดพระเนตรเทพเหล่านั้น ท่ามกลางหมู่เทพแล้วทรงสังเวชว่า ‘เทพเหล่านั้นมาเกิดในหมู่เทพชั้นต่ำกว่า เวลานี้กลับก้าวล่วงพวกเทพชั้นดาวดึงส์ได้’

โคปกเทพบุตรนั้นพิจารณาถ้อยคำของท้าวสักกะ ผู้ทรงเกิดความสังเวชแล้วกราบทูลท้าววาสวะว่า ‘มีพระพุทธเจ้าผู้ทรงเป็นจอมคนอยู่ในมนุษยโลก ทรงครอบงำกามเสียได้ พระนามว่าพระศากยมุนี เทพพวกนั้นเป็นบุตรของพระพุทธเจ้าพระองค์นั้น เป็นผู้เสื่อมจากสติ ถูกข้าพระองค์ตักเตือนแล้วจึงกลับได้สติ’

บรรดาท่านทั้ง ๓ เหล่านั้น ผู้หนึ่งคงเกิดในหมู่คนธรรพ์อยู่ในภพนี้ อีก ๒ ท่านดำเนินตามทางสัมโพธิ เพราะเป็นผู้มีจิตมั่นคง ย่อมเย้ยเทวโลก ได้

๑ ธรรมที่ปราศจากความกำหนัด ในที่นี้หมายถึงอนาคามิมรรค (ที.ม.อ. ๓๕๔/๓๒๔)
๒ สติ ในที่นี้ได้แก่ฌาน (ที.ม.อ. ๓๕๔/๓๒๔)
๓ ทางสัมโพธิ ในที่นี้หมายถึงอนาคามิมรรค (ที.ม.อ. ๓๕๔/๓๒๔)
๔ เย้ยเทวโลก หมายถึงคนธรรพ์ ๒ ตนพอได้อุปจารสมาธิและอัปปนาสมาธิแล้วก็ทำให้เป็นบาท เพื่อให้ บรรลุสัมโพธิ แล้วจักไม่เวียนกลับมาในภพภูมิที่ต่ำอีกต่อไป (ที.ม.อ.๓๕๔/ ๓๒๓)

สารบัญ พระไตรปิฏก

พระไตรปิฏก
พระไตรปิฏก
พระวินัยปิฏก
พระวินัย
พระสุตตันตปิฏก
พระสูตร
พระอภิธรรมปิฏก
พระอภิธรรม