การประกาศธรรมในศาสนานี้เป็นเช่นนี้ ไม่มีพระสาวกรูปไหนจะสงสัยอะไร ในการประกาศธรรมนั้นเลย พวกข้าพระองค์ขอนอบน้อมพระชินพุทธเจ้า ผู้ทรงเป็นจอมคน ทรงข้ามโอฆะได้ ทรงตัดความสงสัยได้แล้ว
บรรดาคนธรรพ์ ๓ ตนนั้น ๒ ตนรู้ธรรมอันใดของพระองค์แล้ว ถึงความเป็นผู้วิเศษไปเกิดในหมู่พรหมชั้นพรหมปุโรหิตา บรรลุคุณวิเศษแล้ว
ท่านผู้นิรทุกข์ ขอประทานวโรกาส ถึงพวกข้าพระองค์ก็มาเพื่อบรรลุธรรมนั้น หากพระผู้มีพระภาคทรงประทานวโรกาส ก็จะขอทูลถามปัญหา”
{๒๕๔} [๓๕๕] ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคทรงพระดำริว่า “ท้าวสักกะทรงเป็นผู้ บริสุทธิ์มาช้านาน จะตรัสถามปัญหากับเรา ก็จะตรัสถามทุกอย่างที่ประกอบด้วย ประโยชน์ จะไม่ตรัสถามปัญหาที่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ และท้าวเธอจะทรงเข้า ใจที่เราตอบได้ฉับพลันเทียว”
[๓๕๖] จากนั้น พระผู้มีพระภาคได้ตรัสกับท้าวสักกะจอมเทพเป็นพระคาถาว่า
“วาสวะ พระองค์ทรงปรารถนาสิ่งใดไว้ในพระทัย ก็โปรดถามปัญหานั้นกับอาตมภาพเถิด อาตมภาพจะแก้ปัญหานั้นให้ถึงที่สุดแด่พระองค์”
ภาณวารที่ ๑ จบ