หน้าหลัก พระไตรปิฏก AI ธรรมะ E-Book ฐานข้อมูลวัด ติดต่อเรา
พุทธบริษัท
พระไตรปิฏกฉบับมหาจุฬาราชวิทยาลัย เล่มที่ 13 หน้าที่ 430 | Buddhaparisa.org
หน้าหลัก / พระสุตตันตปิฏก
พระไตรปิฏกฉบับมจร. เล่มที่ 13
<< | หน้าที่ 430 | >>
ก็แตก ผ้าสังฆาฏิก็ขาด เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ พระผู้มีพระภาคได้ ทอดพระเนตรเห็นท่านพระองคุลิมาลกำลังเดินมาแต่ไกล ได้ตรัสกับท่านพระองคุลิมาลว่า

“เธอจงอดกลั้นไว้เถิดพราหมณ์ เธอจงอดกลั้นไว้เถิดพราหมณ์ เธอได้เสวย วิบากกรรมซึ่งเป็นเหตุให้เธอหมกไหม้อยู่ในนรกหลายปี หลายร้อยปี หลายพันปี ในปัจจุบันนี้แล้ว

พระองคุลิมาลเปล่งอุทาน


{๕๓๔} ครั้งนั้นแล ท่านพระองคุลิมาลอยู่ในที่สงัด หลีกเร้นอยู่ เสวยวิมุตติสุขแล้ว ได้เปล่งอุทานนี้ในเวลานั้นว่า

“คนที่ประมาทมาก่อน ต่อมาภายหลัง ไม่ประมาท

เขาย่อมทำโลกนี้ให้สว่างไสวได้

ประดุจดวงจันทร์ที่พ้นจากเมฆฉะนั้น

คนที่ทำบาปกรรมแล้วปิดไว้ได้ด้วยกุศล

ย่อมจะทำโลกนี้ให้สว่างไสวได้

ประดุจดวงจันทร์ที่พ้นจากเมฆฉะนั้น

เช่นเดียวกันแล ภิกษุที่ยังหนุ่มแน่น

ขวนขวายอยู่ในพระพุทธศาสนา

ก็ย่อมทำโลกนี้ให้สว่างไสวได้

ประดุจดวงจันทร์ที่พ้นแล้วจากเมฆฉะนั้น

๑ พระดำรัสนี้พระผู้มีพระภาคตรัสหมายถึงทิฏฐธรรมเวทนียกรรม (กรรมที่ให้ผลในปัจจุบันคือภพนี้) เพราะ เจตนาในปฐมชวนจิตที่เป็นกุศลหรืออกุศลในจิต ๗ ดวง ชื่อว่า ทิฏฐเวทนียกรรมซึ่งให้ผลในอัตภาพนี้ (ม.ม.อ. ๒/๓๕๒/๒๔๖)
๒ กุศล ในที่นี้หมายถึงกุศลในองค์มรรค ทำให้กรรมนั้นหยุดให้ผล (ม.ม.อ. ๒/๓๕๒/๒๔๗)

สารบัญ พระไตรปิฏก

พระไตรปิฏก
บาลีไวยากรณ์
พระวินัยปิฏก
พระวินัย
พระสุตตันตปิฏก
พระสูตร
พระอภิธรรมปิฏก
พระอภิธรรม