พระไตรปิฏก ฉบับมจร. เล่มที่ 33 หน้าที่ 767
[๗๐] เรามิได้ทำตามคำของจระเข้ที่กล่าวหลอกลวงนั้นก็หาไม่
บุคคลมีสัจจะเสมอเราไม่มี นี้เป็นสัจจบารมีของเรา ฉะนี้แล
กปิลราชจริยาที่ ๗ จบ
๘. สัจจสวหยปัณฑิตจริยา
ว่าด้วยจริยาของดาบสผู้เป็นบัณฑิตชื่อว่าสัจจะ
{๒๘} [๗๑] อีกเรื่องหนึ่ง ในกาลที่เราเป็นดาบสนามว่าสัจจะ
เรารักษาสัตว์โลกไว้ด้วยคำสัจ ได้ทำหมู่ชนให้สามัคคีกัน ฉะนี้แล
สัจจสวหยปัณฑิตจริยาที่ ๘ จบ
๙. วัฏฏกโปตกจริยา
ว่าด้วยจริยาของลูกนกคุ่ม
{๒๙} [๗๒] อีกเรื่องหนึ่ง ในกาลที่เราเป็นลูกนกคุ่ม ยังอ่อน
ขนยังไม่งอก เป็นดังชิ้นเนื้อ อยู่ในรัง ในมคธชนบท
[๗๓] มารดาเอาจะงอยปากคาบเหยื่อมาเลี้ยงเรา
เราเป็นอยู่ด้วยผัสสะของมารดา
กำลังกายของเรายังไม่มี
[๗๔] ในฤดูร้อนทุก ๆ ปี มีไฟป่าไหม้ลุกลามมา
ไฟป่าเป็นทางดำลุกลามมาใกล้เรา
[๗๕] ไฟกำลังไหม้ มีเปลวโชติช่วง ส่งเสียงดัง
อื้ออึง ลามมาใกล้เราโดยลำดับ
[๗๖] มารดาและบิดาของเราตกใจ สะดุ้งกลัว
เพราะกลัวไฟที่ไหม้มาโดยเร็ว
จึงทิ้งเราไว้ในรังหนีเอาตัวรอดไป
สารบัญ พระไตรปิฏก
พระไตรปิฏก
พระวินัยปิฏก
พระสุตตันตปิฏก
พระอภิธรรมปิฏก