พระไตรปิฏก ฉบับมจร. เล่มที่ 33 หน้าที่ 771
[๑๐๐] เด็กถูกงูมีพิษกล้ากัด ล้มลงที่พื้นดิน
เหตุนั้น เราเป็นผู้ได้รับทุกข์
หรือว่าทุกข์นั้นเนื่องจากเรา
[๑๐๑] เราได้ปลอบมารดาและบิดาของเด็กนั้น
ผู้มีทุกข์เศร้าโศกให้เบาใจแล้ว
ได้ทำสัจจกิริยาอันประเสริฐสุดครั้งแรกว่า
[๑๐๒] เราผู้ต้องการบุญ ได้ประพฤติพรหมจรรย์
มีจิตเลื่อมใสอยู่เพียง ๗ วันเท่านั้น
ต่อจากนั้น การประพฤติของเรามีมาเกิน ๕๐ ปีนี้
[๑๐๓] เราไม่ปรารถนาเลย แต่ก็ยังประพฤติอยู่
ด้วยสัจจะนี้ ขอความสวัสดีจงมีแก่เด็กนี้
พิษจงระงับ ยัญญทัตตกุมารจงเป็นอยู่เถิด
[๑๐๔] พร้อมกับเมื่อเราทำสัจจกิริยา
มาณพซึ่งสั่นเทาด้วยกำลังพิษ
ก็รู้สึกตัว ลุกขึ้นได้ และหายโรค
บุคคลมีสัจจะเสมอเราไม่มี
นี้เป็นสัจจบารมีของเรา ฉะนี้แล
กัณหทีปายนจริยาที่ ๑๑ จบ
๑๒. สุตโสมจริยา
ว่าด้วยจริยาของพระเจ้าสุตโสม
{๓๒} [๑๐๕] อีกเรื่องหนึ่ง ในกาลที่เราเป็นพระเจ้าแผ่นดินนามว่าสุตโสม
ถูกพระยาโปริสาทจับตัวไปได้
ระลึกถึงคำผัดเพี้ยนไว้กะพราหมณ์(โปริสาท)
สารบัญ พระไตรปิฏก
พระไตรปิฏก
พระวินัยปิฏก
พระสุตตันตปิฏก
พระอภิธรรมปิฏก