ท่านทั้งหลายจงเห็นความประมาทโดยความเป็นภัย
    และเห็นความไม่ประมาทโดยเป็นทางเกษมแล้ว
    จงเจริญมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ ประการเถิด
    นี้เป็นคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
นิเทสแห่งเนกขัมมบารมีเป็นต้น จบ
        ทราบว่าพระผู้มีพระภาค เมื่อจะทรงยกย่องบุพจริยา
    ของพระองค์ จึงได้ตรัสธรรมปริยายชื่อพุทธาปทานีย์
    ด้วยประการฉะนี้แล
สโมธานกถา
สรุปการบำเพ็ญบารมี ๓๐
พระผู้มีพระภาคผู้แสวงหาคุณอันยิ่งใหญ่ ได้ตรัสไว้ดังนี้ว่า
    {๓๖} “การบำเพ็ญบารมีอันเป็นธรรมเครื่องบ่มพระโพธิญาณเหล่านี้
    จัดเป็นบารมี ๑๐ อุปบารมี ๑๐ และปรมัตถบารมี ๑๐
        คือ การบำเพ็ญทานในภพที่เป็นพระเจ้าสิวิราช
    ผู้ประเสริฐเป็นทานบารมี ๑
        ในภพที่เราเป็นเวสสันดรและเวลามพราหมณ์เป็นทานอุปบารมี ๒
    ในภพที่เราเป็นอกิตติดาบสอดอาหารนั้น เป็นทานอุปบารมี
    ในภพที่เราเป็นพญาไก่ป่า สีลวนาคและพญากระต่าย
    เป็นทานปรมัตถบารมี ๓
        ในภพที่เราเป็นพญาวานร ช้างฉัททันต์และช้างเลี้ยงมารดา
    เป็นศีลบารมี” ๔
        การรักษาศีลในภพที่เราเป็นจัมเปยยนาคราช
    และภูริทัตตนาคราชเป็นศีลอุปบารมี ๕
    ในภพที่เราเป็นสังขปาลบัณฑิตเป็นศีลปรมัตถบารมี ๖